29 October 2013

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับคุณหมอวีซ่าประจำฉบับนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คุณหมอวีซ่าได้มีโอกาสไปร่วมงาน “Royal Taste of Thai” ซึ่งเป็นงานรวบรวมผู้ประกอบการร้านอาหาร จัดขึ้นที่โรงแรม Mercure Hotel Sydney ในงานนี้ คุณหมอวีซ่าได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องวีซ่าต่างๆกับผู้ประกอบและนักธุรกิจการทั้งหลาย โดยเฉพาะในเรื่องของนายจ้างสปอนเซอร์และเรื่องวีซ่าธุรกิจ วันงานก็ได้มีโอกาสพบปะกับลูกค้ามากมายที่ได้ทั้งวีซ่าชั่วคราวและวีซ่าถาวรไปจากทาง CP และปัจจุบันทำงานเป็น Cook บ้าง เป็น Restaurant Manager บ้าง เป็น Graphic Designer และบางท่านก็เปิดร้านเป็นเจ้าของร้านอาหารเองบ้าง และที่ประทับใจมากก็คือได้พบกับคุณดุสิตและภรรยาที่เคยได้วีซ่า RSMS เป็น PR ไปอยู่ในเขต Regional และได้ทำงานในสาย Hospitality คุณดุสิตเคยเล่าให้ฟังว่าตอนอยู่เมืองไทยเขามีงานทำที่ดีมาก แต่สาเหตุที่เลือกที่จะอพยพมาอยู่ออสเตรเลียในเขต Regional ก็เพราะว่าเคยเห็นปลาวาฬว่ายน้ำผ่านที่มหาสมุทร ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามและประทับใจเขามาก เขาเลยถามตนเองว่าจะมีสักกี่คนในโลกนี้ที่มีโอกาสเช่นเขาที่ตื่นเช้าก็ได้อยู่กับความงดงามของธรรมชาติและสูดอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่นทุกวัน บางฤดูก็อย่างว่าได้เห็นปลาโลมาปลาวาฬว่ายน้ำผ่านไป เขาเลยทำการตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตที่ขอยื่นเรื่องอยู่ต่อในออสเตรเลีย และที่คุณหมอวีซ่าดีใจมากๆก็คือ ตอนนี้คุณดุสิตและภรรยาก็ได้มีเจ้าตัวน้อยน่ารักมากๆมาเสริมความสุขและสีสันให้กับครอบครัว (ดูในรูปสิค่ะ น้องน่ารักมากๆเลยค่ะ) คุณหมอวีซ่าดีใจมากที่เห็นความสำเร็จของลูกค้าทุกท่าน ส่วนการสัมมนาเรื่องวีซ่านายจ้างสปอนเซอร์ วีซ่าธุรกิจและการลงทุนในวันงาน ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับท่านผู้ฟังบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ สำหรับใครที่มีคำถามเพิ่มเติม หรือยังไม่กระจ่าง ก็สามารถจะโทรเข้ามาสอบถามได้ที่ 02-92678522 หรือจะอีเมล education@cpinternational.com มาสอบถามขั้นต้นก่อนก็ได้ ทางซีพีฯยินดีช่วยเหลือทุกท่านค่ะ

คุณหมอวีซ่าเขียนบทความให้ความรู้เรื่องวีซ่ามาก็มากต่อมากแล้ว วันนี้ด้วยแรงดลใจจากคุณดุสิต จึงอยากเขียนเรื่องราวของลูกค้าหลายต่อหลายท่านที่เลือกใช้บริการของซีพีฯ กว่า 16 ปีที่ผ่านมา จนปัจจุบันนี้ได้วีซ่า ได้พีอาร์ หรือเป็นซิติเซ่นกันไปหมดเรียบร้อยแล้ว บางท่านจากที่เป็นผี (ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว) ก็กลายเป็นคนกันจนหมดแล้ว ทุกครั้งที่ทราบว่าลูกค้าได้วีซ่า คุณหมอวีซ่ารู้สึกภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้มีอกาสช่วยเหลือและเปลี่ยนชีวิตเพื่ออนาคตที่ดีขึ้นให้เขาเหล่านั้นได้ โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวกับวีซ่าคู่ครองที่คุณหมอวีซ่าได้ประสบพบเจอ บางท่านก็ประสบปัญหามาหลากหลาย แต่สุดท้ายแล้วก็สามารถช่วยแก้ปัญหาด้วยสติปัญญา ประสบการณ์และความรู้ทางกฎหมายอิมมิเกรชั่นจนเขาได้วีซ่ามา เรามาลองอ่านเรื่องราวของลูกค้าเหล่านี้ไปพร้อมๆกัน จะได้เป็นกำลังใจให้ว่า “ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ก็ยังมีความหวังให้สู้ต่อไปนะคะ”

เรื่องที่ 1 – น้องเอ (นามสมมุติ) ได้เข้ามาปรึกษากับคุณหมอวีซ่าในวันหนึ่ง น้องเอนั้นถือวีซ่านายจ้างสปอนเซอร์ ประเภท 457 ในตำแหน่งอาชีพหนึ่ง แต่หลังจากที่ทำงานกับสปอนเซอร์ไปได้สักพัก ทำงานทุกวัน นายจ้างไม่ยอมให้หยุด ป่วยหนักแค่ไหนก็ต้องมาทำงาน จนกระทั่งวันหนึ่งป่วยหนัก ลุกไม่ไหว โทรศัพท์ไปบอกนายจ้าง วันรุ่งขึ้นจะไปทำงานก็โดนนายจ้างไล่ออกจากงานทันที วีซ่า 457 (นายจ้างสปอนเซอร์) ก็ค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น ไปทำงานที่ไหนที่อื่นก็ไม่ได้ เพราะติดเงื่อนไข 8107 ในวีซ่า ที่จะต้องทำงานให้กับนายจ้างที่เป็นสปอนเซอร์ให้เท่านั้น น้องเอและแฟนเลยเข้ามาปรึกษาเรื่องจะเปลี่ยนนายจ้าง แต่พอคุยไปคุยมา ในเมื่อน้องเอนั้นก็มีแฟนเป็นคนที่นี่อยู่แล้ว คุณหมอวีซ่าเลยแนะนำให้ยื่นวีซ่าคู่ครองแบบ de-facto แทนไปซะเลย โดยเก็บหลักฐานกินอยู่เพียงแค่ 6 เดือน + ให้ไปจดทะเบียนความสัมพันธ์ที่เรียกว่า Relationship Registration Certificate มา เพื่อเป็นการให้ความคุ้มครองกับน้องเอ หลังจากยื่นวีซ่าคู่ครองไปแล้ว ทางซีพีฯจึงค่อยให้ไปแคนเซิลวีซ่าทำงาน เรียกว่าในท่ามกลางแห่งความโชคร้าย น้องเอก็ยังโชคดีที่ได้เจ้าหน้าที่ฝั่งดูแลวีซ่าคู่ครองที่ดีมาก ขยันทำงาน เรื่องยื่นเข้าไปเพียงแค่ 3 เดือนนับจากยื่นเรื่องเท่านั้น ก็ได้วีซ่าทีอาร์ subclass 820 มาเลย ปัจจุบันนี้ก็สามารถทำงานได้เต็มเวลา ไม่จำเป็นต้องไปง้อนายจ้างอีกแล้ว แถมยังได้สิทธิเมดิแคร์อีกด้วย – Happy Ending ค่ะ…

เรื่องที่ 2 – น้องบี (นามสมมุติ) เป็นลูกค้าอีกท่านหนึ่งของคุณหมอวีซ่าที่ก็ประสบปัญหาหนักมา ในวันที่เข้ามาปรึกษานั้น น้องบีถือวีซ่าคู่หมั้นมาจากเมืองไทย แต่พอมาถึงแล้ว ฝ่ายชายจากที่เคยสัญญาว่าจะดูแลตลอดชีวิตจะหาไม่ ก็ดันไปมีผู้หญิงใหม่ น้องบีนั้นโดนไล่ออกจากบ้าน โดนทำร้ายจิตใจต่างๆ นานา ครั้นจะยื่นวีซ่าอะไรต่อก็ไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ถือทีอาร์ แต่เหมือนโชคชะตาก็ยังไม่ร้ายต่อน้องบีเสมอไปนะคะ น้องบีนั้นได้ไปเจอหนุ่มหล่อชาวออสเตรเลียคนหนึ่ง จะว่าเป็นรักแรกพบก็ได้ พอน้องบีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ชายหนุ่มฟัง ชายหนุ่มก็สงสารน้องบีมาก จนถึงขั้นบอกว่า ไอจะสปอนเซอร์ยูเอง” และน้องบีก็ได้ยื่น partner visa กับแฟนหนุ่มเป็นที่เรียบร้อย หลังจากรอเป็นเวลา 1 ปี ปัจจุบันน้องบีก็ได้รับวีซ่าทีอาร์ sc820 เป็นที่เรียบร้อย ได้สิทธิในการทำงาน และเมดิแคร์เหมือนน้องเอ บางครั้งโชคชะตาก็ไม่ได้ใจร้ายกับเราเสมอไปเห็นมั้ยคะ ซึ่งคุณหมอวีซ่าก็ดีใจมากที่ช่วยให้น้องบีได้วีซ่า partner – another Happy Ending…

เรื่องที่ 3 – ผ่านพ้นเรื่องราวเกี่ยวกับวีซ่า partner ไปมากแล้ว ก็มาสู่เรื่องดีๆ เช่นวีซ่านักเรียนกันดีกว่าค่ะ น้องคนนี้เป็นความภาคภูมิใจของทีมงานซีพีฯมากๆ น้องซี (นามสมมุติ) นั้นเป็นนักเรียนเข้ามาเรียนระดับปริญญาตรี และดิโพลม่า ตอนที่มาเรียนนั้น ทางเอเจนท์ของน้องซีก็ไม่ได้บอกกล่าวถึงเรื่องการเตรียมเอกสารอะไร เพราะทางเอเจนท์เป็นคนจัดการเอกสารให้ทุกอย่าง หลังจากเรียนจบปริญญาตรี ก็ตัดสินใจเรียนต่อในระดับดิโพลม่าทางด้านสาขา Hospitality น้องซีนั้นเรียนจบมาทางด้าน Communication จากมหาวิทยาลัยชื่อดังในไทย แต่พอเรียนจบก็รู้ตัวว่าไม่ใช่แนว ก็อยากจะไปเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะตัวเองนั้นชอบทางด้านอาหาร อยากเปิดร้านอาหาร ก็เรียนไปหลายดิพโพลม่าด้วยกัน จนกระทั่งถึงดิพฯตัวล่าสุด Diploma of Business ก็โดนเจ้าหน้าที่อิมฯปฏิเสธวีซ่า ก่อนที่จะปฏิเสธนั้นเจ้าหน้าที่ก็มีการโทรมาสัมภาษณ์ แต่ก็ไม่ได้เรียกขอเอกสารอะไรเพิ่มเติม แล้วจู่ๆวันหนึ่งน้องซีก็ได้รับจดหมายปฏิเสธจากอิมมิเกรชั่น ภายใต้กฎ GTE (Genuine Temporary Entrant) ว่าไม่ได้ตั้งใจจะเรียนจริงๆ เพียงแค่อยากจะหาวีซ่าอยู่ต่อออสเตรเลียไปเรื่อยๆ หลังจากได้รับจดหมายปฏิเสธ น้องซีก็ได้เดินทางมาพบคุณจัสติน – ทีมงานของคุณหมอวีซ่า ซึ่งทางคุณหมอวีซ่าและจัสตินก็ได้แนะนำให้น้องซียื่นเรื่องไปอุทธรณ์ที่อนุญาโตตุลาการ (Migration Review Tribunal) พร้อมกันนี้ ทางซีพีฯก็ได้แนะนำให้น้องซีไปเรียนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยความขยันและความตั้งใจของน้องซี ทำให้เมื่อเร็วๆนี้ เจ้าหน้าที่ตัดสินศาลอุทธรณ์ก็ให้วีซ่านักเรียนคืนกับน้องซี เพราะเห็นในความตั้งใจที่ไปเรียนอย่างสม่ำเสมอ และน้องซีเองนั้นก็มีจุดประสงค์ในการเรียนที่จะไปเปิดธุรกิจต่อที่บ้านเกิดจริงๆ – Another Happy Ending ค่ะ…

สำหรับน้องๆ ผู้อ่านท่านใดที่มีปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องวีซ่า อย่าเก็บเรื่องราวไว้เพียงคนเดียวนะคะ สามารถเข้ามาปรึกษากับคุณหมอวีซ่าหรือทีมงานเพื่อความชัวร์ เรื่องอย่างนี้เราไม่ควรตัดสินใจคนเดียว เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนและพาดพิงถึงกฎหมาย ควรปรึกษาเอเย่นที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเป็น Migration Agent ที่มีประสบการณ์ dealing กับ MRT หรือ Compliance cases เพราะเรื่องวีซ่าจะผูกพันกับการอยู่หรือไปของเรา กับอนาคตของเราโดยตรง การได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เปรียบแล้วเสมือนกับเวลาเรามีอาการป่วยหนัก หากเรารักษาเองจ่ายยาเองโดยที่เราไม่มีความรู้ทางการแพทย์ และอาการเกิดก็ลุกลามใหญ่โตเกินกว่าที่เราจะแก้ไขหรือรักษาได้ ก็คงรอดยากมากหรือบางครั้งอาจไม่มีทางรอดเลยก็เป็นไปได้ เพื่อความมั้นใจ ปรึกษาผู้รู้เรื่องกฎหมายจะดีที่สุด โทรมาสอบถามข้อมูลกับทีมงานซีพีฯได้ที่ 02-92678522 หรือจะโทรมานัดปรึกษากับคุณหมอวีซ่าก็ได้เลยนะคะ

My Future My CP

ปิดท้ายวันนี้ด้วยเรื่องราวของน้องบอลลูนที่เพิ่งจะได้รับพีอาร์ไปหมาดๆจากวีซ่า partner (sc801) น้องบอลลูนนั้นแสนจะโชคดี รอทีอาร์ก็แป๊บเดียว และพีอาร์ก็รอเพียงแค่ 2 เดือนก็ได้รับข่าวดีจากอิมฯว่าได้พีอาร์แล้ว โชคดีจริงๆค่ะ ได้ทั้งพีอาร์และได้แฟนที่น่ารักเช่นเบน คุณหมอวีซ่าแสนจะอิจฉาจริงๆ

น้องบอลลูนและคุณเบน
น้องบอลลูนและคุณเบน

ขอบคุณน้องบอลลูลที่ตั้งใจเขียนเรื่องราวของน้องมาให้ลงในบทความคุณหมอวีซ่า ขอให้มีความสุขด้วยกัยมากๆนะคะ

“ขอขอบคุณพี่โจ พี่ต๊อบที่ช่วยดูแลเคสของบอลลูนมาตลอด และคนที่สำคัญที่คงขาดไปไม่ได้ก็คือคุณพี่ปิ๊ป เพราะไม่ว่าเคสจะยากขนาดไหนก็ตาม คำถามกี่ร้อยคำถาม คุณพี่ปิ๊ปสามารถตอบได้และมีทางออกดีๆให้อย่างรวดเร็วง่ายดายเสมอ ยื่นเรื่อง Partner Visa ขอ PR ไปตั้งแต่วันที่ 30 June2011 จนถึงวันที่ 16 September 2013 ที่ผ่านมาก็ได้เป็นPR แล้วค่ะ ใช้เวลาไม่นานเลยคาดไม่ถึงจริงๆค่ะ ไม่ผิดหวังเลยที่เลือกเดินเข้ามาปรึกษาพี่ๆที่นี่ ยอมรับเลยค่ะว่าพี่ๆที่ CP ทุกคนมีความรู้ความสามารถที่จะช่วยแก้ปัญหาของเราได้จริงๆ นับตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายทีมงานทุกคนก็ยังให้การต้อนรับอย่างดี ประทับใจจริงๆค่ะ รวดเร็ว ฉับไว ใส่ใจอย่างถูกต้อง ทุกปัญหามีทางออกเสมอค่ะลองเข้าไปปรึกษาเขากันดูนะคะ”

มีคำถามเกี่ยวกับการสมัครหรือสถานะวีซ่าออสเตรเลียของคุณ? ต้องการสมัครเพื่อศึกษาต่อ ทำงาน หรืออาศัยอยู่ในออสเตรเลีย? สามารถขอคำแนะนำจากทีมคุณหมอวีซ่าได้ที่: