26 October 2011

เนื่องจากมีจำนวนนักเรียนไทยเรียนหนังสืออยู่ในออสเตรเลียเป็นจำนวนมาก คุณหมอวีซ่าจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และในปักษ์นี้เราจึงมาต่อกันกับการเปลี่ยนแปลงของวีซ่านักเรียนจากฉบับที่แล้วนะคะ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ถือเป็นวิเคราะห์ผลจากรายงานที่เสนอโดยท่าน สว Michale Knight หรือที่เรียกว่า response to the Knight Paper ซึ่งได้ตีพิมพ์ออกมาเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2011 นับแต่มีการประกาศวีซ่านักเรียนรูปโฉมใหม่ออกมา มีนักเรียนโทรมาที่ซีพี ฯมากมาย ต้องการสอบถามถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆของวีซ่านักเรียน และส่วนใหญ่ก็ดูจะแฮ้ปปี้มากกับการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของวีซ่านักเรียน ช่วงนี้เราก็ต้องมาเฝ้ารอดูกันต่อไปว่าจะเริ่มประกาศใช้เมื่อไรกัน แต่ตอนนี้คุณหมอวีซ่าว่าเรามาติดตามกันว่าการเปลี่ยนแปลงของวีซ่านักเรียนรูปโฉมใหม่ครั้งนี้มีผลต่อผู้ขอวีซ่านักเรียนเข้าออสเตรเลียรุ่นใหม่อย่างไรไปพร้อมๆกันดีกว่าค่ะ v เพิ่มโอกาสในการทำงานระหว่างเรียน (More Flexible Work Entitlements – Recommendations 7 and 28) ในปัจจุบันนี้ นักเรียนต่างชาติที่ลงเรียนหนังสือในปัจจุบันมีโอกาสในการทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ แต่ใน the Knight Paper ได้เสนอว่าชั่วโมงการทำงานของนักเรียนนั้นควรจะมีการเปลี่ยนแปลงให้สะดวกขึ้น ภายใต้กฎของวีซ่านักเรียนอันใหม่ นักเรียนสามารถทำงานได้ 40 ชั่วโมงต่อ 14วัน (fortnight) โดยเริ่มนับจากวันจันทร์ ซึ่งกฎอันใหม่นี้จะเป็นผลดีต่อตัวนักเรียนและตัวนายจ้างเอง บางช่วงสถานที่ทำงานอาจจะยุ่ง ซึ่งกฎนี้จะช่วยให้นักเรียนสามารถทำงานได้มากกว่า 20 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ แต่จะต้องไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อ 14 วัน โดยจะต้องไม่ทำผิดกฎของวีซ่านักเรียนอีกด้วย ซึ่งกฎนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2012ค่ะ v Improvements for Existing Student Visa Holders (Recommendations 24 and 25) – การเปลี่ยนแปลงของวีซ่านักเรียนสำหรับผู้ที่ถืออยู่ในปัจจุบัน ทางรัฐบาลนำเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงการยกเลิกวีซ่านักเรียนโดยอัตโนมัติ (the automatic and mandatory student visa cancellation) ซึ่งโดยปกติถ้าหากนักเรียนไม่ไปเรียนหนังสือ สอบตก หรือทำงานเกิน 20 ชั่วโมงก็จะโดนยกเลิกวีซ่านักเรียนโดยอัตโนมัติ ซึ่งข้อเสนอของวีซ่านักเรียนใหม่นี้จะยกเลิกกฎนี้ไปทั้งหมด โดยอิมมิเกรชั่นจะหันมาพิจารณาเป็นรายกรณี หรือ case by case basis โดยหันมาพิจารณาที่รายบุคคล กับหลักฐานประกอบตามข้อเท็จจริงและเหตุผลที่ให้มาเป็นหลัก กล่าวคือ ถ้าหากอิมมิเกรชั่นพบว่าคนไหนละเมิดกฎจริง เช่นมีผลการเรียนไม่พอตามที่อิมมิเกรชั่นกำหนด (unsatisfactory attendance) ก็จะโดนยกเลิกวีซ่า แต่ถ้าเหตุผลเพียงพอ ก็จะไม่ยกเลิก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็เพื่อการตัดสินที่เป็นธรรมแก่นักเรียนต่างชาติโดยตรงนั่นเอง นอกจากนี้ ทางอิมมิเกรชั่นฯยังต้องเล็งไปควบคุมความประพฤติของเอเย่นต์นักเรียนทั้งหลายด้วยโดยตรง ถ้าเอเย่นต์ไหนเป็นคนสมัครให้นักเรียนมาเรียนที่นี่ แล้วนักเรียนไม่ยอมไปเรียน มัวแต่ทำงาน ต่อไปนี้ทางอิมมิเกรชั่นก็มีสิทธิเล่นงานเอเย่นต์นะคะ เพราะต่อไปนี้ทางสถาบันการศึกษาจะต้องแจ้งชื่อเอเย่นต์ที่ส่งนักเรียนให้กับทางสถาบันไปที่ PRISMS (Provider Registration and International Students Management System) ซึ่งเป็นหน่วยงานของ DEEWR ซึ่งถ้าหากมีการพบว่าเอเย่นต์รายไหนคอยแต่ส่งแต่นักเรียนเก๊ หรือนักเรียนที่ไม่ใช่ Genuine Temporary Entrant (GTE) เข้ามาละก็ ก็อาจจะมีการดำเนินงานทางกฎหมายต่อไปค่ะ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็เพื่อการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของระบบวีซ่านักเรียนออสเตรเลีย ซึ่งจะเริ่มใช้ในต้นปี 2012 นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงระบบการตัดสินวีซ่า ซึ่งจะมีการลดหย่อนจำนวน financial requirement ให้แก่ผู้ที่อยู่ในระบบ assessment level 3 และ 4 แต่เนื่องจากนักเรียนที่มาจากประเทศไทยอยู่ใน level 1 และ 2 ดังนั้นคุณหมอวีซ่าจึงขอข้ามไปนะคะ v Education Visa Consultative Committee (EVCC) – (Recommendation 37) จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาวีซ่านักเรียนขึ้น ซึ่งหน่วยงานนี้จะจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนระหว่างหน่วยงานด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ รัฐบาลออสเตรเลีย และหน่วยงานสำคัญต่างๆที่เกี่ยวข้องกับวีซ่านักเรียน จุดประสงค์ในการจัดตั้งหน่วยงานนี้ขึ้นมาก็เพื่อให้ข้อมูลต่างๆ ทั้งทางด้านนโยบาย ปัญหาต่างๆ ตลอดจนผลตอบรับที่เกี่ยวข้องกับวีซ่านักเรียน ซึ่งการประชุมของคณะกรรมการในครั้งแรกจะเริ่มขึ้นภายในปลายปี 2011 การจัดตั้งหน่วยงานนี้ขึ้นมาก็เพื่อพัฒนาการติดต่อสื่อสาร และบริการต่างๆเกี่ยวกับวีซ่านักเรียน v Higher Degree by Research (HDR) (Recommendations 5 to 9) การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดของวีซ่านักเรียนรูปโฉมใหม่อีกประการหนึ่ง ก็คือการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับนักเรียนที่มาออสเตรเลียเพื่อศึกษาวิจัยไม่ว่าจะเป็นปริญญาโทในระดับวิจัย ปริญญาเอก เป็นต้น มีสิทธิที่จะได้รับการทำงานหลังศึกษาจบเป็นเวลาสูงสุด 4 ปี ได้รับโอกาสในการทำงานไม่จำกัดชั่วโมงระหว่างกำลังศึกษา นอกจากนี้ยังเลื่อนวันหมดอายุของวีซ่าออกไปอีก 6 เดือน ในระหว่างรอผล thesis และถ้าหากนักเรียนนั้นมาจากประเทศที่อยู่ใน assessment level อื่นๆแต่ต้องการมาเรียนในระดับ Higher Degree by Research (HDR) ก็จะได้รับสิทธิในการประเมินให้อยู่ในระดับ assessment level 1 ซึ่งเป็นระดับที่ดีที่สุดของ assessment level ทั้งหมด ไม่ว่านักเรียนเหล่านั้นจะมาจากประเทศใดๆก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2012 – 2013 ยกเว้นการเลื่อนวีซ่าออกไป 6 เดือนสำหรับนักเรียนที่มาเรียนด้านวิจัย ซึ่งจะเริ่มมีผลในตอนปลายปี 2011 v Review of the Assessment Level Framework (Recommendation 32) อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่อิมมิเกรชั่นต้องการนำเสนอก็คือการพิจารณาทบทวน Assessment Level Framework ที่ใช้ในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในปัจจุบันตลาดการศึกษาในระดับนานาชาติมีการแข่งขันที่สูงมาก ออสเตรเลียเองก็มีการศึกษาที่ไม่เป็นสองรองใคร และถือเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญอย่างหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย ดังนั้นทางอิมมิเกรชั้นจึงจะนำ a provider-based risk management approach หรือการจัดการทางด้านความเสี่ยงโดยหันไปให้ความสำคัญกับสถานศึกษา สถานศึกษาไหนที่มีมาตรฐานสูง ถือเป็นผู้ให้บริการที่มีความเสี่ยงต่ำ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนต่างๆ ก็จะได้รับการประเมินที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า สถานศึกษาที่ไม่ได้รับมาตรฐาน แต่ Review นี้จะยังไม่มีผลบังคับใช้และจะต้องได้รับการทบทวนหารือจากภาครัฐก่อนถึงจะประกาศใช้ค่ะ นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของวีซ่านักเรียนต่างๆที่คุณหมอวีซ่าคิดว่าผู้อ่านทั้งหลายควรจะรู้กันค่ะ – ออกวีซ่านักเรียนให้ก่อน 4 เดือนก่อนวันเริ่มเรียน อัปเดทค่าครองชีพทุกปี เพื่อกำหนดหลักฐานทางการเงินที่ถูกต้องให้กับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการเข้ามาเรียนยังออสเตรเลีย ยังมีการเปลี่ยนแปลงอีกมากมายที่คุณหมอวีซ่าไม่ได้กล่าวถึงไว้ รายละเอียดที่คุณหมอวีซ่าลงไว้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่คุณหมอมองว่าอาจจะมีผลกระทบต่อนักเรียน หรือผู้อ่านคนไทยทั้งหลาย ถ้าหากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่ http://www.immi.gov.au/students/knight/ หรือถ้าหากผู้อ่านท่านไหนสงสัย หรืออยากจะโทรมาปรึกษากับทางซีพี ฯ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียน หรือวีซ่าต่างๆ ตอนนี้คุณหมอวีซ่ากลับมาประจำอยู่ที่ซิดนีย์แล้วนะคะ ถ้าหากต้องการเข้ามาปรึกษากับคุณหมอวีซ่า ก็สามารถโทรมานัดได้เลยค่ะ ตอนนี้ที่เมืองไทยน้ำท่วมกันแทบจะทุกจังหวัด คุณหมอวีซ่าและซีพีฯซิดนีย์จึงจัดทำโครงการพิเศษ ถ้าหากนักเรียนคนไหนมาลงทะเบียนเรียน และแปลเอกสารกับ CP Inter ตั้งแต่ วันนี้ถึง 15 December 2011 ทาง CPInter จะร่วมสมทบทุนบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ประเทศไทยโดยถ้าหากเป็นการลงทะเบียนเรียน เราจะร่วมบริจาค 1000 บาทต่อ 1 enrolment และถ้าเป็นการแปลเอกสาร เราจะบริจาค 100 บาทต่อ 1 ชิ้น โดยเงินบริจาคนี้จะร่วมกองทุนของสถานกงศุลใหญ่ประจำนครซิดนีย์ค่ะ แล้วอย่าลืมมาช่วยกันนะคะ เพราะเราคนไทยไม่เคยทิ้งกันค่ะ

มีคำถามเกี่ยวกับการสมัครหรือสถานะวีซ่าออสเตรเลียของคุณ? ต้องการสมัครเพื่อศึกษาต่อ ทำงาน หรืออาศัยอยู่ในออสเตรเลีย? สามารถขอคำแนะนำจากทีมคุณหมอวีซ่าได้ที่: