Dr Visa Article – 23 May 2019

การยื่นสมัครวีซ่าแต่ละกรณีมักจะมีเรื่องราวที่แปลกและน่าสนใจของเสมอ สถานการณ์ในชีวิตจริงนั้น ในบางครั้งก็มีการพลิกผันหักมุมที่เหนือความคาดหมายและน่าตกใจมากกว่านิยายที่เราอ่านกันเสียอีก

กรณีศึกษาในวันนี้คือการสมัครวีซ่าคู่ครอง (Partner Visa) ที่เพื่อนร่วมงานของ คุณปิ๊ป พนัสบดี (MARN 9896337) ได้ยื่นคำขอไปยังกรมตรวจคนเข้าเมือง

สปอนเซอร์

คุณจอร์จ (นามสมมุติ) เป็นชาวอังกฤษที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศอังกฤษ ครอบครัวของเขาย้ายไปอาศัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียตอนที่เขาเพิ่งอายุได้ 4 ขวบ และใช้ชีวิตในฐานะผู้อยู่อาศัยถาวรนับตั้งแต่นั้นมา เขาไม่เคยยื่นขอสถานะพลเมืองชาวออสเตรเลียมาก่อน

จอร์จแต่งงานกับคนรักของเขาตอนที่อายุได้ 22 ปี และถึงแม้จะพยายามในทุกวิถีทางแล้ว พวกเขาก็จบลงที่การแยกทางหลังจากใช้ชีวิตร่วมกันมาได้ 8 ปี เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว และพวกเขาไม่มีบุตรด้วยกัน

ผู้สมัคร

เวนดี้ (นามสมมุติ) เป็นคนสัญชาติไทยที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลียอย่างผิดกฎหมายมามากกว่า 3 ปี แล้วเธอพบกับจอร์จเป็นครั้งที่สองด้วยความบังเอิญเมื่อ 2 ปีก่อน ครั้งนี้เธอเลือกที่จะสมัครงานที่ฟาร์มของเขา หลังจากที่รู้จักกันมาได้ 5 เดือน เธอก็ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านของจอร์จอย่างเป็นทางการและเริ่มความสัมพันธ์แบบ De facto ด้วยความสนับสนุนของเพื่อนและครอบครัว จอร์จขอเวนดี้แต่งงานหลังจากที่อาศัยอยู่ด้วยกันครบ1เดือน

เวนดี้มีลูกที่เกิดจากสามีคนก่อนในประเทศไทยติดมาด้วย 2 คน ลูกชายอายุ 24 ปี และลูกสาววัย 17 ปี โดยที่ทั้งคู่กำลังอาศัยอยู่ในประเทศไทย เธอให้กำเนิดลูกชายกับสามีคนแรกในปี 2531 แต่ 2 ปีหลังจากนั้นสามีคนแรกของเธอก็เสียชีวิต เธอพบกับสามีคนที่สองในปี 2538 และให้กำเนิดลูกสาว ความสัมพันธ์ระหว่างเวนดี้และสามีคนล่าสุดนั้นไม่สู้ดีนัก พวกเขาห่างเหินจากกันมานานหลายปีแล้ว และไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยนับตั้งแต่นั้นมา

สถานการณ์

Partner Visa 2

เช่นเดียวกันกับเคสวีซ่าคู่ครองอื่นๆ จอร์จและเวนดี้มีคำถามมากมายหลังจากที่ได้ปรึกษากับ CP International

1.จอร์จยังคงสถานะเป็นคู่สมรสของคนรักเก่าของเขาอยู่หรือไม่ เนื่องจากเขาไม่เคยได้รับจดหมายแจ้งจากรัฐเกี่ยวกับการหย่าของเขาเลย?

จอร์จบอกเราว่า เขาไม่เคยได้รับเอกสารที่แสดงว่าเขาหย่าอย่างเป็นทางการแล้วจากรัฐเลย

ภายใต้กฏหมายการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลีย ตั้งแต่ที่จอร์จได้แยกทางจากคนรักเก่าสมัยเรียนเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เขาจำเป็นต้องหาเหตุผลมาอธิบายว่าทำไมเขาถึงไม่ได้รับใบหย่า คุณปิ๊ปได้แนะนำให้เขาให้การเรื่องนี้ตอนยื่นอุทธรณ์และหาเอกสารทางกฎหมายที่แสดงสถานภาพของเขาให้แก่กรมฯ เขาได้มอบเอกสารจำพวก Medicare card และหนังสือประเมินผลจาก Australian Taxation Officeให้กรมฯไปแล้ว

ตามกฎหมายของออสเตรเลีย จอร์จยังคงสถานะเป็นคู่สมรสตามกฎหมายของคนรักเก่าสมัยเรียนของเขาอยู่หากเธอไม่ได้ยื่นใบหย่าให้กับรัฐ นี่หมายความว่าจอร์จจะไม่สามารถแต่งงานกับเวนดี้อย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ รวมถึงไม่สามารถทำเรื่องขอใบแต่งงานในชื่อของเขาและเวนดี้ได้ อย่างไรก็ตามกฎหมายการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลียนั้นอนุญาตให้มีความสัมพันธ์แบบ De facto กับผู้อื่นได้ ถึงแม้จะแต่งกับใครไปแล้วก็ตาม ตราบใดที่ยังมีคู่สมรสเพียงคนเดียว ด้วยกฎหมายของออสเตรเลีย สถานะความสัมพันธ์แบบ De facto จะไม่มีตัวตนหากท่านกำลังดูใจหรืออยู่กินกับคนมากกว่าหนึ่งคน

2.การที่เวนดี้อาศัยอยู่ในออสเตรเลียอย่างผิดกฏหมายตลอด 3 ปีที่ผ่านมาจะส่งผลให้มีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่?

การอาศัยอยู่ในออสเตรเลียเกินเวลาที่กำหนดโดยไม่มีวีซ่าสามารถส่งผลให้เวนดี้ถูกจับย้ายออกจากออสเตรเลียได้ หลังจากออกจากออสเตรเลียไปแล้ว เวนดี้ยังจะถูกห้ามไม่ให้เข้าออสเตรเลียอย่างน้อยอีก 5 ปี ก่อนที่เธอจะสามารถกลับเข้าไปใหม่ได้ ส่วนมากออสเตรเลียจะไม่อนุญาตให้เธอกลับไปยังออสเตรเลียถึงแม้จะเป็นเพียงการไปเยี่ยมเยียนก็ตาม นอกจากนี้ประเทศอื่นๆยังสามารถเข้าถึงข้อมูลของเธอได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ประเทศเหล่านั้นปฏิเสธหากเธอยื่นสมัครวีซ่าเข้าประเทศอันเนื่องมาจากประวัติการเดินทางและการกระทำของเธอ

สำหรับการยื่นสมัครวีซ่าคู่ครองโดยเป็นคนผิดกฎหมายที่ไม่ได้เป็นพลเมืองของประเทศนั้น จะมีการใช้เกณฑ์เพิ่มเติมที่เรียกว่า Schedule 3 การเพิกถอน Schedule 3 นั้นสามารถทำได้หากบุคคลนั้นๆตกอยู่ในสถานการณ์ที่บีบบังคับและน่าเวทนา ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้และอยู่นอกเหนือการควบคุมของเวนดี้ ในกรณีนี้เวนดี้ไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ดังนั้นการสมัครวีซ่าคู่หมั้นของเวนดี้ในออสเตรเลียจึงมีความยุ่งยากกว่าเดิม

3. ลูกของเวนดี้สามารถมาออสเตรเลียในฐานะผู้ติดตามได้หรือไม่ และ จะทำอย่างไรกับอดีตสามีของเวนดี้ที่ไม่สามารถติดต่อได้เลย(กฎหมายไทยต้องการความยินยอมจากผู้ปกครองทั้งสองคนในการให้ลูกย้ายถิ่นฐาน)

มีเพียงลูกสาววัย 17 ปี ของเวนดี้คนเดียวเท่านั้นที่สามารถเดินทางมายังออสเตรเลียได้ในฐานะผู้ติดตามภายใต้วีซ่าคู่ครอง นั่นเป็นเพราะว่าเธอมีอายุอยู่ในช่วง 18-25 ปี (ความหมายของ”Dependent child”ที่ปรับปรุงล่าสุดคือการมีอายุอยู่ในช่วง 18-23 ปี) ผู้ที่มีอายุมากกว่า 25ปี เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นผู้พิการ ทุพพลภาพ หรือมีสภาวะจิตใจผิดปกติ ในกรณีของเวนดี้ ลูกชายของเธอมีอายุ 24 ปี ย่าง 25 ปี ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะไม่รวมลูกชายเธอในการสมัครด้วย ส่วนการที่เวนดี้ไม่สามารถติดต่อคู่หมั้น De facto เก่าของเธอที่เป็นพ่อแท้ๆของลูกสาวได้นั้น คุณปิ๊ปแนะนำให้เวนดี้ขอความช่วยเหลือจากตำรวจท้องถิ่นในประเทศไทย โดยการยื่นคำขอตามหาผู้สูญหาย เอกสารเหล่านี้ถูกส่งให้กรมฯสำหรับการพิจารณา

4. เวนดี้สามารถยื่นสมัครวีซ่าทั้งที่ยังอาศัยอยู่ในออสเตรเลียอย่างผิดกฎหมายได้หรือไม่? หรือเธอต้องเดินทางกลับไปประเทศไทยก่อน และ เพราะอะไร

ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น เวนดี้ไม่สามารถยื่นสมัครวีซ่าคู่ครองในออสเตรเลียได้ เนื่องจากเธอไม่ผ่านเกณฑ์ Schedule 3 มากไปกว่านั้นหากเวนดี้ยื่นสมัครวีซ่าคู่ครองขณะที่เธอกำลังอยู่ในออสเตรเลีย ลูกสาวของเธอจะต้องรอให้เวนดี้ได้รับวีซ่าคู่ครองชั่วคราวก่อนที่เธอจะสามารถยื่นสมัครวีซ่าสำหรับบุตรได้ ขั้นตอนนี้จะใช้เวลานานเป็นสองเท่าสำหรับทั้งฝ่ายแม่และลูกสาวเมื่อเทียบกับการทำวีซ่าคู่ครองนอกออสเตรเลีย

สืบเนื่องมาจากเหตุผลข้างต้น ทางที่ดีที่สุดสำหรับเวนดี้คือการเดินทางกลับมาประเทศไทยและยื่นสมัครวีซ่าคู่ครอง (Subclass 309)นอกออสเตรเลีย วิธีนี้นอกจากจะรักษาเงินและเวลาแล้ว เวนดี้ยังจะสามารถเดินทางไปยังออสเตรเลียพร้อมกับลูกสาวได้หลังจากที่วีซ่านี้ได้รับอนุมัติ

บางครั้งกรมฯจะทำการสัมภาษณ์ผู้ที่เป็นสปอนเซอร์และผู้สมัคร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี คำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์จะยึดความสัมพันธ์ระหว่างสปอนเซอร์และผู้สมัครเป็นหลัก เพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่าคำตอบของทั้งสองฝ่ายนั้นตรงกัน ในกรณีนี้ เวนดี้และจอร์จต้องได้รับการสัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์

5.กรมฯจะโทรมาสัมภาษณ์เวนดี้และจอร์จหรือไม่?

บางครั้งทางกรมจะทำการสัมภาษณ์สปอนเซอร์และผู้สมัครมันแตกต่างกันระหว่างการสมัครกับและคำตอบ คำถามสัมภาษณ์ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างสปอนเซอร์และผู้สมัคร นี่คือเพื่อให้แน่ใจว่ามีความสอดคล้องกับคำตอบที่ได้รับจากทั้งสองฝ่าย ในกรณีนี้เวนดี้และจอร์จจำเป็นต้องได้รับการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์

The Happy Ending

Partner Visa 2

ในตอนท้าย ความพยายามของลูกค้าและตัวแทนการย้ายถิ่นฐานก็สัมฤทธิ์ผล เวนดี้และลูกสาวของเธอได้มาพบกับจอร์จอีกครั้งด้วยวีซ่าคู่ครองชั่วคราว (Temporary Partner ,Subclass 309) ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือนหลังจากที่ยื่นสมัครไป พวกเขาเหลือเพียงแค่รอเวลาอีก 2 ปีสำหรับกรมฯที่จะส่งจดหมายเชิญให้พวกเขาสมัครวีซ่าคู่ครองถาวร (Permanent Partner,Subclass 100)

มีคำถามเกี่ยวกับการสมัครหรือสถานะวีซ่าออสเตรเลียของคุณ? ต้องการสมัครเพื่อศึกษาต่อ ทำงาน หรืออาศัยอยู่ในออสเตรเลีย? สามารถขอคำแนะนำจากทีมคุณหมอวีซ่าได้ที่: