4 March 2013

ประเทศใดครองแชมป์ด้านการศึกษาของโลก

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน ช่วงนี้คุณหมอวีซ่าหายตัวจากซิดนีย์ชั่วคราวอีกแล้ว เดือนมีนาฯนี้บังเอิญคุณหมอวีซ่าจะเดินทางไปรับลูกสาวที่ไปทำงานเป็น English Teacher สอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กๆชาวญี่ปุ่นอยู่ที่ Nagoya ประเทศญี่ปุ่น จึงได้แวะมากรุงเทพฯก่อน ก็เลยจะถือโอกาสไปเยี่ยมโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นที่กรุง Tokyo ด้วย เนื่องจากปัจจุบัน โลกของการศึกษานั้นขยายไปกว้างนัก มีนักเรียนไทยที่อยากไปเรียนภาษาญี่ปุ่นก็เยอะ ยุคนี้ เยาวชนไทยก็เริ่มฮิตไปเรียนภาษาเกาหลีกันด้วย CP Inter จึงต้องดึงเอาการศึกษาญี่ปุ่นเข้ามามีไว้รองรับตามความต้องการของผู้ปกครองและน้องๆนักเรียนนักศึกษา จะเห็นได้ว่าสมัยนี้ ผู้ปกครองไม่เพ่งเล็งส่งลูกให้เรียนเฉพาะภาษาอังกฤษแต่เพียงอย่างเดียว anymore แล้ว เด็กรุ่นใหม่ นอกจากจะได้ภาษาอังกฤษแล้ว ยังได้ภาษาชาติอื่น เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีแถมเพิ่มเข้ามาอีก คุณหมอวีซ่าเองจากการที่คุณพ่อคุณแม่ท่านเห็นความสำคัญทางภาษาจีน ก็ให้ไปเรียนโรงเรียนจีนที่มาเลย์เซียมาตั้งแต่เด็กๆ เลย จึงพูดเขียนอ่านได้ทั้งภาษาจีน ไทย อังกฤษ มีประโยชน์มากๆค่ะ อันนี้ขอการันตีเลยค่ะว่าการพูดและใช้ได้หลายภาษาช่วยให้หน้าที่การงานและอนาคตของเราไปได้ไกลจริงๆค่ะ มาถึงตรงนี้ คุณหมอวีซ่าก็อยากจะแชร์เรื่องราวของผลการสำรวจการจัดอันดับการศึกษาของโลกจาก The Legatum Institute ซึ่งเป็นสถาบันจัดการสำรวจความคิดเห็นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนี้

“นิวซีแลนด์ ครองแชมป์ด้านการศึกษาของโลก ที่วัดจากการเข้าถึงการศึกษา คุณภาพการศึกษา และทรัพยากรมนุษย์ ตามด้วยที่ 2 คือประเทศออสเตรเลีย ด้านทวีปแอฟริกามีอันดับรั้งท้าย

เมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา เว็บไซต์พอสเพอร์ริตี ได้เผยแพร่ ผลการสำรวจจัดอันดับจาก เดอะ เลกาเทัม อินสทิทิว (The Legatum Institute) สถาบันจัดการสำรวจความคิดเห็นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่ง ได้ทำการสำรวจเพื่อประเมินความมั่งคั่งของชาติในปี ค.ศ. 2012 โดยจากผลสำรวจจากการประเมิน 3 ปัจจัยประกอบด้วย การเข้าถึงการศึกษา คุณภาพการศึกษา และทรัพยากรมนุษย์ พบว่า ผู้ที่ได้อันดับ 1 ในด้านการศึกษา ก็คือประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งได้อันดับความมั่งคั่งของประเทศอยู่ที่อันดับที่ 5 ขณะที่อันดับด้านการศึกษาของประเทศออสเตรเลียนั้นรั้งอันดับ 2 นำประเทศแคนาดา ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 3 

และจากผลการจัดอันดับทั้งหมด 142 ประเทศ พบว่า ประเทศแถบทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปยุโรป และทวีปออสเตรเลียนั้น จะมีอันดับทางด้านการศึกษาที่สูงกว่าประเทศในแถบอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับประเทศแถบทวีปแอฟริกาซึ่งมีอันดับการเข้าถึง การศึกษาที่ต่ำมาก

และนี่คือ 10 อันดับของประเทศที่มีอันดับด้านการศึกษาสูงที่สุดในโลก

  1. นิวซีแลนด์
  2. ออสเตรเลีย
  3. แคนาดา
  4. ไต้หวัน
  5. สหรัฐอเมริกา
  6. นอร์เวย์
  7. เกาหลีใต้
  8. ฟินแลนด์
  9. สโลเวเนีย
  10. สเปน

เพียงสงสัยว่าทำไมประเทศอังกฤษที่เคยติดอันดับมาโดยตลอดกลับไม่อยู่ใน list แต่กระนั้นก็ตาม เด็กไทยก็ยังนิยมไปประเทศอังกฤษกันมาก อย่างปีนี้ 2013 ก็เป็นอีกปีหนึ่งที่ CP Inter Bangkok ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจัดกลุ่มนักเรียนโรงเรียนสตรีวิทยา (ซึ่งเป็นโรงเรียนหญิงคัดเลือกที่แทบทุกคนรู้จักกันดีในวงการศึกษาที่เมืองไทย) ไปเรียน Summer ที่ประเทศอังกฤษกับเราอีกครั้งในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ คุณหมอวีซ่าจึงดีใจที่เราเดินถูกทางมาโดยตลอดโดยให้แต่หลักสูตรดีๆที่มีคุณภาพสูงเป็นที่รับรองให้กับน้องๆนักเรียนนักศึกษาของเราอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอด อย่างที่ New Zealand ทาง CP Inter เราก็เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัยเกือบทุกแห่ง เช่น University of Auckland, Auckland University of Techonology, Victoria University of Wellington, Canterbury University, Waikato University, Massey University, Lincoln University เป็นต้น ซึ่งอย่างมหาวิทยาลัย Auckland ก็เป็นมหาวิทยาลัยระดับโลกที่ดีมากๆ เมื่อปีที่ผ่านมา ทาง CP Inter Bangkok ก็ยังได้จัดคณะครูจากมหาวิทยาลัยที่เมืองไทยที่กำลังทำหลักสูตร PhD ไปร่วมโครงการ Teachers Leader Program ที่ Massey University ที่ New Zealand มาอย่างประสบความสำเร็จสูงยิ่ง กลับมาต่างประทับใจในเมืองกีวีแห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง จึงอยากสนับสนุนให้น้องๆเก็บไว้เป็นทางเลือกนะคะ หากคิดว่าอยากปรึกษาวางช่องทางอนาคตอย่างถูกต้องและตรงเป้าหมายทางการเรียนและอนาคต ก็มาพบกับทีมงาน CP Inter ได้เลยนะคะ ช่วงที่คุณหมอวีซ่าจะประจำการอยู่ที่กรุงเทพฯ หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดอยากคุยด้วย ก็ยินดีนะคะ แต่ช่วงที่คุณหมอวีซ่าไม่อยู่ที่สาขาใด ทีมงานทุกสาขาก็เก่งๆทั้งนั้นค่ะ สามารถเข้ามาปรึกษาได้เลยค่ะ

การเรียนต่อเมืองนอกเป็นสิ่งที่ต้องมีการวางแผนเสียให้ถูกต้องมาตั้งแต่ต้นขั้ว คือจากบ้านของตนโดยตรง คุณหมอวีซ่าจะยกตัวอย่างให้ฟังอย่างที่เห็ได้ชัดๆ และเพิ่งเกิดขึ้น คือเรามีนักเรียนจีนชื่อน้อง Sheila เป็นหลานของเพื่อนสนิทชาวฮ่องกงของคุณหมอวีซ่าเอง เพื่อน รักคนนี้ได้อีเมลมาขอความช่วยเหลือให้คุณหมอวีซ่าจัดคอร์สเพื่อรองรับอนาคตที่ถูกต้องให้กัน้อง Sheila ที่จบทางด้านกฎหมายพาณิชน์มาจากประเทศจีน และหลังจบก็อยากให้อยู่ทำงานจนได้ถือใบถิ่นฐานถาวร (Permanent Resident หรือ PR) ของออสเตรเลีย คุณหมอวีซ่าจึงแนะนำให้น้องลงเรียน Master of Professional Accounting หลักสูตร 2 ปีที่ UTS โดยให้ไปเรียนภาษาที่ Insearch UTS ก่อน เพราะเป็นหลักสูตรภาษาที่เข้า UTS ตรงได้เลยโดยไม่ต้องไปนั่งสอบ IELTS กันอีก และจบแล้วน้อง Sheila สามารถขอ Post-Study Work visa (PSW) 2 ปีอยู่ทำงานต่อที่ออสเตรเลียได้ทันที และทำงานไปด้วยก็สามารถยื่นขอ PR ภายใต้โครงการ SkillSelect ของออสเตรเลีย หรือขอให้นายจ้างสปอนเซอร์อยู่ต่อได้อีก เพราะมีความรู้แน่นทั้งทางกฎหมายและบัญชี แถมยังเป็นเด็กดีที่ขยันและซื่อตรง ขณะเดียวกัน น้องมาเล่าให้ฟังว่า เพื่อนชาวจีนของเขาอีกคนเสียใจมาก เพราะ เอเย่นของเขาส่งไปเรียนโทเหมือนกัน แต่เป็นหลักสูตรเพียง 1.5 ปีเท่านั้น จบแล้วไม่สามารถทำ PSW visa ได้ แถมอยากยื่น PR ก็คงต้องไปเรียนโทมาอีกใบ ซึ่งทำให้พ่อแม่ต้องเสียงบประมาณเพิ่มเติมอีกมาก เสียเวลาเพิ่มอีกปีกว่าสองปีอย่างน่าเสียดาย จุดนี้สำคัญค่ะ เพราะหลักสูตรที่น้องๆลงกันนั้นจะต้อง meet เงื่อนไข Two Year Study rule ของ Australia คือจะต้องเป็นหลักสูตรที่ขึ้นทะเบียนไว้ 92 CRICOS weeks เป็นอย่างต่ำ จึงจะสามารถใช้ทำ PSW หรือ SkillSelect ต่อได้นะคะ น้องๆที่จะทำเรื่องไปเรียนต่อออสเตรเลีน ต้องคำนึงถึงจุดนี้ให้ดี ไม่ใช่ไปถึงแล้วมานั่งเสียใจภายหลัง หากมีสิ่งใดไม่เข้าใจ หรือต้องการความกระจ่างมากกว่านี้ ก็สามารถเข้าไปสอบถามกับ CP Inter ทุกสาขาได้เลยค่ะ

Updates วีซ่าทำงาน 457

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางอิมมิเกรชั่นได้ออกมาตรการใหม่เกี่ยวกับวีซ่าทำงาน (sc457) เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าเกิดช่องโหว่ของวีซ่าตัวนี้ขึ้นมามาก อย่างเช่นที่พบบ่อยก็คือมีการจ่ายเงินเดือนในอัตราที่ต่ำกว่าที่อิมฯกำหนดที่เรียกว่า TSMIT (Temporary Skilled Migration Income Threshold) อันนี้ การที่อิมฯได้มีการตั้งอัตราเงินเดือนที่จ่ายให้สูงไว้ ก็เพราะไม่อยากให้นายจ้างไปจ้างแต่แรงงานต่างชาติเข้ามา เพราะคนท้องถิ่นชาวออสซี่ก็ถือว่ามาแย่งงานจากพวกเขาไป ส่วนนายจ้างเอง ก็น่าเห็นใจ เพราะการจ้างชาวออสซี่ทำงานนั้นนอกจากเงินเดือนจะแพงมากแล้ว ก็ยังไม่ได้ผลงานเป็นที่พึงพอใจในหลายๆกรณี จึงเลือกที่จะจ้างแรงงานต่างชาติและในที่สุดสปอนเซอร์ให้เขาได้ PR และทำงานกับนายจ้างไปนานๆ จึงกลายเป็นทางเลือกของนายจ้างออสเตรเลียมาเป็นเวลาช้านาน ทางอิมฯจึงได้กำหนดให้มีสัญญาการจ่ายเงินตามอัตราในท้องตลาด หรือขั้นต่ำตามที่อิมฯกำหนด นอกจากนี้ในบางอาชีพก็ไม่จำเป็นที่ต้องสอบ IELTS ด้วย อย่างที่นักกฎหมายท่านหนึ่งเคยพูดไว้ว่า “กฏหมายมีไว้ให้เปิดช่องโหว่” ด้วยเหตุนี้ทางอิมมิเกรชั่นจึงจำเป็นต้องออกมาอุดช่องโหว่และทำการปรับปรุงระบบและมาตรการให้เข้มงวดมากขึ้นเพื่อไม่ให้มีการนำวีซ่าตัวนี้ไปใช้ในทางที่ผิด ส่วนทางอิมมิเกรชั่นจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างก็ต้องรอประกาศกันอีกทีนะคะ ซึ่งมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2013 เป็นต้นไปค่ะ เพราะฉะนั้นในช่วงนี้ที่กฎต่างๆยังเป็นเหมือนเดิมอยู่ ใครที่มีโอกาสในการยื่นวีซ่า 457 โดยเฉพาะคนไทยทั้งหลายที่มีนายจ้างจำนวนมากต้องการจะสปอนเซอร์ ก็ควรจะรีบยื่นนะคะก่อนที่มาตรการใหม่จะถูกนำเข้ามาใช้ค่ะ
ในฉบับนี้คุณหมอวีซ่าก็ขอเขียนถึง 3 อาชีพที่เป็นที่นิยมของเหล่าเด็กไทยทั้งหลาย ได้แก่ massage therapist, retail buyer, และ graphic designer ค่ะ

Massage Therapist (ANZSCO Code 411611)

ในปัจจุบันนี้มีร้านนวดไทยจำนวนมากเปิดในเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซิดนีย์ เมลเบิร์น หรือบริสเบน บางคนก็เป็นเจ้าของเอง บางคนก็ทำงานนวดอยู่ในร้าน มีหลายครั้งที่ทีมงานของคุณหมอวีซ่าได้รับโทรศัพท์เข้ามาสอบถามถึงการสปอนเซอร์ลูกจ้างในร้านนวด แต่โดยส่วนใหญ่แล้วน้องๆที่โทรเข้ามาถามมักจะถือวีซ่านักเรียน และหาโอกาสทำงานพิเศษโดยเป็นมือนวดประจำร้านต่างๆ ซึ่งน้องๆเหล่านี้ต่างก็ไม่ได้เรียน หรือจบมาในด้าน massage therapy หรือ remedial massage เพราะฉะนั้นจึงทำให้การสปอนเซอร์ในอาชีพนี้จึงยากเข้าไปอีก ในวันนี้คุณหมอวีซ่าจึงขอลงรายละเอียดคร่าวๆของการจะยื่นอาชีพ massage therapist สำหรับน้องๆที่เรียนอยู่และมีแผนที่จะยื่นในอาชีพนี้กันค่ะ

สำหรับผู้สมัครนั้นจะต้องเรียนจบในขั้นต่ำ Advanced Diploma หรือ Diploma ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ Massage ไม่ว่าจะเป็น Massage Therapy หรือ Remedial Massage และข้อดีของการยื่นอาชีพคือไม่ต้องสอบ IELTS นับว่าเป็นข้อดีนะคะ โดยเฉพาะสำหรับน้องๆที่มีปัญหาในเรื่องของภาษาอังกฤษค่ะ

Retail Buyer (ANZSCO Code 639211)

อาชีพนี้อาจจะยังไม่เป็นที่คุ้นหูกันมากนะคะ แต่ลองนึกถึงคนที่ต้องทำงานใน supermarket หรือตามร้านขายผักผลไม้ ก็จำเป็นจะต้องมีพนักงานไม่ว่าจะเป็นแคชเชียร์ คนจัดวางผักและผลไม้ อาชีพนี้ก็เหมือนคนเลือกซื้อสินค้าเข้าร้าน โดยจะต้องทำการเปรียบเทียบสินค้าจากหลายๆเจ้า ว่าเจ้าไหนถูก เจ้าไหนแพง แล้วก็เลือกซื้อสินค้านั้นเข้าร้าน ซึ่งในปัจจุบันนี้มีร้านค้าประเภทนี้เป็นจำนวนมากในออสเตรเลีย และทางร้านเองก็ขาดพนักงานที่จะทำงานตรงส่วนนี้ จึงทำให้อาชีพนี้เป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับน้องๆคนไทยที่ทำงานอยู่ในออสเตรเลีย
คุณสมบัติขั้นต่ำสำหรับผู้ที่จะยื่นอาชีพนี้จะต้องจบ Certificate III บวกประสบการณ์การทำงานอีก 2 ปี หรือ Certificate IV ในสาขาที่เกี่ยวข้อง และไม่ต้องสอบ IELTS ด้วยค่ะ

Graphic Designer (ANZSCO Code 232411)

อาชีพสุดท้ายที่จะกล่าวถึงในฉบับนี้ก็คือ Graphic Designer เด็กไทยหลายๆคนมีฝีมือ มีความสามารถ และที่ออสเตรเลียเองก็มีหลายบริษัทจำนวนมากที่ให้บริการทางด้านกราฟฟิก และด้านเว็บไซท์ น้องๆหลายคนที่มาเรียนต่อปริญญาโท เมื่อหาประสบการณ์ก่อนจะกลับไทยต่างก็ได้รับการสปอนเซอร์ อาชีพนี้เป็นหนึ่งในอาชีพที่มีน้องๆโทรเข้ามาสอบถามกันเป็นจำนวนมาก แต่อาชีพนี้จะต่างกับอาชีพข้างต้นก็ตรงที่ผู้สมัครนั้นจะต้องเรียนจบในระดับปริญญาตรี หรือสูงกว่าในสาขาที่เกี่ยวข้อง หรือถ้าหากไม่ได้เรียนจบในระดับปริญญาตรี ก็ต้องมีประสบการณ์การทำงาน 5 ปีขึ้นไปถึงจะเอามาแทนกันได้ และแน่นอนไม่จำเป็นต้องสอบ IELTS ค่ะ

เห็นมั้ยคะว่าอาชีพส่วนใหญ่นั้นไม่จำเป็นต้องมีผลสอบ IELTS ยกเว้นก็แต่อาชีพ trade ที่จำเป็นต้องมี skill assessment และจะต้องมีผลสอบ IELTS เด็กไทยหลายๆคนมีความสามารถ และในช่วงนี้ที่ทางอิมมิเกรชั่นกำลังจะเปลี่ยนแปลงกฎหรือเงื่อนไขของวีซ่า sc457 เราก็ควรที่จะเตรียมพร้อมหรือเตรียมยื่นแต่เนิ่นๆ ก่อนที่กฎจะเปลี่ยน

อาชีพเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆนะคะ ถ้าผู้อ่านท่านไหนอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม หรืออยากสอบถามในข้อมูลของอาชีพอื่นๆ ก็สามารถโทรเข้ามาสอบถามได้ที่ซีพีฯได้ทุกสาขาเลยค่ะ หรือถ้าอยากมาคุยแบบตัวต่อตัว ก็สามารถมาร่วมฟัง “สัมมนา Working Visa Seminar” – อยากทำวีซ่าทำงาน ทำอย่างไร ในวันพุธที่ 13 และวันเสาร์ที่ 16 มีนาคม เวลา 14.00 – 16.00 ที่ออฟฟิศซีพี ซิดนีย์ – Suite 1, Level 6, 377-383 Sussex Street, Sydney ร่วมตอบปัญหาทุกเรื่องราวที่เกี่ยวกับวีซ่าทำงาน อยากได้รับการสปอนเซอร์ทำอย่างไร มีอาชีพอะไรที่สปอนเซอร์ได้บ้าง สปอนเซอร์แล้วได้พีอาร์เลยมั้ย สปอนเซอร์ตัวเองได้มั้ย เรียน cookery มาแล้วทางร้านอยากสปอนเซอร์ มาร่วมฟังคำตอบทุกคำถามเกี่ยวกับวีซ่าทำงานได้ที่งานนี้เลยค่ะ สำรองที่นั่งได้ที่ 02-9267-8522 อีเมล migration@cpinternational.com.

มีคำถามเกี่ยวกับการสมัครหรือสถานะวีซ่าออสเตรเลียของคุณ? ต้องการสมัครเพื่อศึกษาต่อ ทำงาน หรืออาศัยอยู่ในออสเตรเลีย? สามารถขอคำแนะนำจากทีมคุณหมอวีซ่าได้ที่: