Dr Visa Article – 11 Feb 2020

 เบื่อสอบ IELTS จัง สอบทีไรก็ไม่ผ่านซักที มีทางเลือกใหม่ – ลองสอบ PTE ที่คะแนนสามารถใช้ยื่นได้เหมือนกันดีไหม?

ยื่นวีซ่าเอง มีโอกาสผ่านเท่าๆ กับจ้าง Migration Agent ยื่นให้ไหม?

ถูกปฏิเสธวีซ่ามา 3 ครั้งซ้อน ด้วยเงื่อนไข PIC4020 แปลว่าอะไร?

สวัสดีค่ะ แฟนคลับคุณหมอวีซ่าทุกท่าน จากสัมมนาที่คุณหมอวีซ่าได้บรรยายไปสดๆร้อนๆ เมื่อวันเสาร์ที่ 1 February 2020 ซึ่งจัดที่ห้องประชุมของ CP Bangkok เกี่ยวกับช่องทางใหม่ของวีซ่า 491 กับ 494 ไปทำงานในเขตภูมิภาคของออสเตรเลีย (regional Australia) ได้ยาวถึง 5 ปี โดยเมื่ออยู่ครบ 3 ปีมีคุณสมบัติครบถ้วนตรงตามเงื่อนไขของวีซ่า ก็มีสิทธิ์ข้ามฝั่งไปเป็นผู้ถือวีซ่าถาวรหรือ Permanent Resident visa subclass 191 (PR) ได้ ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับดีมาก มีผู้ฟังเข้ามาร่วมงานเกือบ 30 ท่าน หลายท่านได้คอมเมนท์กลับมาว่าได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ดีมากๆต่อการตัดสินใจในทางเดินอนาคตของพวกเขา คุณหมอวีซ่าก็ดีใจด้วยที่มีโอกาสถ่ายทอดข้อมูลกับความรู้ที่ถูกต้องและมีประโยชน์ให้กับทุกท่านนะคะ

คำถามหนึ่งที่ได้รับเข้ามาจากวันสัมมนา และจากลูกค้าระยะหลังๆนี้ ที่อยากทำวีซ่าเข้าประเทศต่างๆที่ได้รับความนิยม เช่น Australia, New Zealand หรือ UK โดยไม่ว่าจะเป็นวีซ่าไปเรียนต่อ ไปทำงาน หรือจะอพยพเข้าไปอยู่ด้วยวุฒิ อาชีพ ประสบการณ์งาน หรือ ความสามารถของตนก็ตาม ก็คือเรื่องผลสอบภาษาอังกฤษที่ทางรัฐบาลเหล่านี้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการกำหนดให้ผ่าน โดยหลายปีที่ผ่านมา ท่านผู้อ่านคงจะสอบได้แต่เพียง IELTS ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีมาช้านาน แต่หลายท่านสอบเป็นสิบๆรอบ ก็ไม่สามารถสอบให้ผ่านได้คะแนนตามที่อิมมิเกรชั่นกำหนดให้ผ่านครบทั้ง 4 ทักษะ เขียน อ่าน ฟัง พูด สักกะที จนหมดใจ หมดตังค่าสอบไปมากมาย สอบครั้งนึงก็ใช่จะถูกๆซะที่ไหน ตั้ง 6,900 บาทต่อครั้ง แต่ปรากฏว่า ครั้งนี้ ตกพูด ครั้งหน้าตกเขียน อีกทีก็ตกฟัง หรือตกอ่าน เป็นต้น (เข้าใจความรู้สึกไหมคะ) จึงทำให้หลายท่านถึงกับถอดใจเลิกล้มการไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือไปอยู่ไปทำงานกันไปเลยก็มี วันนี้คุณหมอวีซ่าจึงอยากขอ update ข่าวเรื่องผลสอบภาษาอังกฤษที่เป็นที่ยอมรับของอิมมิเกรชั่น หรือสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยต่างๆในประเทศที่ได้รับความนิยมทั้งหลายที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า ปัจจุบันนี้ นอกจาก IELTS แล้ว ทางการได้มีการขยายฐานการยอมรับผลสอบภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นอีก 4 ประเภท  คือ

Pearson Test of English Academic (PTE Academic)
Test of English as a Foreign Language internet-based Test (TOEFL iBT)
Occupational English Test (OET)
​Cambridge C1 Advanced test
 

โดยในจำนวนนี้ ผลสอบ TOEFL iBT จะใช้กับการไปศึกษาต่อที่ USA กันมากกว่า ส่วนผลสอบ OET จะใช้กับผู้ที่สอบเพื่อเรียนหรือทำงานในสายสาธารณสุข เช่น หมอ เภสัช ทันตแพทย์ พยาบาล เป็นต้น และ Cambridge C1 Advanced test  ก็เป็นที่นิยมใช้กับการไปเรียนต่อประเทศในแถบยุโรปซะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ทางเลือกที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆในตอนนี้ก็คือ การสอบ Pearson Test of English Academic หรือเรียกย่อๆว่า PTE Academic test ซึ่งเมื่อเทียบกับการสอบ IELTS หรือ TOEFL iBT จะเห็นว่าผลสอบที่เทียบคะแนนเท่าเทียมกันจะเป็นดังตารางข้างล่างนี้:

 

คุณหมอวีซ่าจึงเกิดข้อกังขาตามที่ลูกค้าหลายท่านรายงานมาว่า พวกเขาสอบ IELTS มาเป็นสิบๆรอบไม่ผ่านกัน เลยย้ายไปสอบ PTE กันเป็นแถวๆ และก็ได้ผลกลับมาตามคะแนนที่ต้องการ ก็เลยอยากทราบรายละเอียดของการสอบวัดผลภาษาอังกฤษ PTE ว่ามันเป็นอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไร จะสามารถช่วยให้ลูกค้าของเราบรรลุผลสอบตามข้อกำหนดทางภาษาได้เร็วขึ้นไหม ยากกว่าหรือง่ายกว่าอย่างไรบ้าง จะเป็น fast and fair English test จริงหรือเปล่า

 

 

คุณหมอวีซ่าจึงส่งเทียบเชิญ คุณ Gordon Vanstone ซึ่งถือตำแหน่งเป็น PTE Academic Client Relations Manager ของ SE Asia ให้มาให้คำบรรยายชี้แจงเทคนิคการสอบ PTE แก่ลูกค้าของเราหรือผู้ที่สนใจมาร่วมงาน CP English and Vocational Day ของเราในวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2020 นี้ที่ห้องประชุมของสำนักงาน CP International, Bangkok Office ชั้น 9 อาคารพหลโยธินเพลส (สถานีรถไฟฟ้าอารีย์ ทางออกที่ 4)  ในงาน คุณ Gordon ยังใจดี จะมาแจกบัตรค่าสอบมูลค่า 5,000 กว่าบาท (US180.00) ให้กับผู้โชคดีฟรีเป็นจำนวน 2 ใบ และ voucher PTE mock test เชิงติวก่อนสอบอีก 5 ใบ มูลค่า US35.99 โอกาสอย่างนี้ไม่ค่อยมีบ่อยนะคะ คุณหมอวีซ่าจึงขอเชิญชวนให้น้องๆทุกคนที่กำลังอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือกำลังจะขอวีซ่าไปทำงาน หรืออพยพไปอยู่ต่างประเทศกินเงินเดือนเป็นดอลลาร์ หรือปอนด์ ยูโร ก็แล้วแต่ และต้องใช้ผลภาษาอังกฤษเพื่อไปให้ถึงจุดเป้าหมาย ให้มาร่วมงานวันที่ 7 March 2020 ที่ CP Bangkok กันเยอะๆนะคะ

 

 

อย่างที่เป็นที่รู้กันว่า บทความคุณหมอวีซ่ามักจะมีเรื่องเล่าน่าตื่นเต้น สนุก น่ารู้ และเป็นเรื่องวีซ่าที่เกิดขึ้นจริงมาเล่าสู่กันฟังเป็นความรู้บ้าง เป็นอุทาหรณ์บ้าง เพื่อไม่ให้ท่านที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์จะต้องไปเจอกับประสบการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาที่บางท่านได้เผชิญมาด้วยตัวเอง หลายเคสคุณหมอวีซ่าก็สามารถใช้ความรู้ทางกฎหมาย อ้างอิงถึงนโยบาย และตัวอย่างเคสเก่าๆด้วยประสบการณ์กว่า 22 ปีที่ทำวีซ่ามา และที่อิมมิเกรชั่น หรือตุลาการ หรือศาลเคยตัดสินมาโต้แย้ง เพื่อหาทางช่วยกู้วีซ่าให้กับผู้รับทุกข์คืนมา แต่สำหรับเคสใสๆ ที่ผู้ยื่นมีความสามารถทำเองได้ คุณหมอวีซ่าก็จะสนับสนุนให้ไปทำกันเองหลังรับคำปรึกษากับคุณหมอวีซ่า (กันความผิดพลาด) ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะคุณหมอวีซ่ากับทีมงาน เคสล้นมือ ไม่สามารถรับทำทุกเคสได้ แต่การไปทำเอง หรือไปจ้างเอเย่นอื่นที่ราคาถูกกว่ายื่นเคสให้ โดยเอาคำแนะนำจากคุณหมอวีซ่าไปให้เขาช่วยเดินตามนั้น อยากขอเตือนสักนิดว่า ให้ระวังหน่อยนะคะ ต้อง make sure ว่าคนทำไม่มั่ว ไม่ถือเอาแต่ความสะดวกของตนเป็นหลัก แล้วข้ามขั้นตอนบางขั้นไปจนตัวเราพลาดไม่ได้วีซ่ามา ดังตัวอย่างจริงที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้นะคะ

 

น้องเอ (นามสมมุติ) เป็นภรรยาของ น้องบี ทั้งคู่มาพบคุณหมอวีซ่าและทีมงานเมื่อไม่นานมานี้เอง เพราะถูกปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยวด้วยผิดพลาดตรงให้ข้อมูลไม่ตรงตามความเป็นจริงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไป อิมมิเกรชั่นจึงปฏิเสธด้วยเหตุผล PIC4020 (Public Interest Criteria 4020) ซึ่งส่งผลให้ถูก ban ได้ถึง 3-10 ปี ไม่สามารถได้วีซ่าชั่วคราวใดๆกลับเข้าออสเตรเลียอีกได้ ตามข้อมูลที่คัดมาจากอิมฯ นี้เลยค่ะ <https://immi.homeaffairs.gov.au/help-support/meeting-our-requirements/providing-accurate-information>

Providing accurate information
As a visa applicant, you must prove your identity and provide true information with your application.

We might refuse your visa application for failing to satisfy Public Interest Criterion (PIC) 4020 if you, or any of the members of your family unit:

  • do not satisfy us as to your identity
  • provide bogus documents or information that is false and misleading in relation to your current visa application or
  • provided bogus documents or information that is false and misleading in relation to a visa that you held in the 12 months before making your current application.

Non-grant period 
We might not grant you a visa (which has PIC 4020 as a criterion) for a period of ten years if you, or a member of your family unit, have a visa application refused because of a failure to satisfy us as to your identity.

We might not grant you a visa (which has PIC 4020 as a criterion) for a period of three years if you, or a member of your family unit, have a visa application refused due to providing bogus documents or information that is false and misleading. 

เรื่องของเรื่อง คือ คุณสามี น้องบี นั้นครั้งหนึ่งเคยถูกมหาวิทยาลัย cancel COE จนวีซ่าน้องถูก cancel กลับไทยมาโดน ban 3 ปี มาพบคุณหมอวีซ่า และคุณหมอวีซ่าก็ช่วยยื่นเคสให้น้องได้กลับเข้าออสเตรเลียด้วยวีซ่านักเรียนไปเรียนต่อภายในช่วงที่ถูก ban 3 ปีนั้นจนสำเร็จ น้องบีอยากได้ภรรยาไปอยู่ด้วย คุณหมอวีซ่าก็บอกให้ใจเย็นๆ ให้น้องบีได้วีซ่านักเรียนมาให้ได้ก่อน แล้วค่อยยื่นภรรยาเป็นผู้ติดตาม (Student Dependent) ไปให้ และทีมงานคุณหมอวีซ่า ก็วางแผนชี้แนะให้เรียบร้อย ปรากฏว่าน้องเอภรรยากลับไปจ้างอีกเอเย่นหนึ่งที่ออสเตรเลียยื่นให้ โชคดีที่วีซ่าตัวนี้ผ่าน ต่อมา น้องๆทั้งสองต้องกลับมาไทยด้วยเรื่องทางครอบครัว

 

พออีกปีต่อมา น้องเออยากกลับไปเยี่ยมญาติที่ออสฯ ก็ไปจ้างเพื่อนที่เป็นเอเย่นที่ไทยยื่นให้ โดนปฏิเสธกลับมา เพราะไม่ผ่าน GTE (Genuine Temporary Entry) ด้วยเหตุผลที่น้องเอไม่มีงานทำที่มั่นคง

ต่อมาอีกสองเดือน น้องเอก็ไปจ้างเอเย่นอีกเจ้าที่บอกว่าเป็นเพื่อนยื่นให้ คราวนี้ โดนปฏิเสธรอบ 2 ด้วย PIC 4020 เนื่องจากเอเย่นไปกรอกในฟอร์มให้ว่า น้องไม่เคยโดนปฏิเสธวีซ่ามาก่อน ทั้งๆที่ทางสถานทูตฯมีประวัติติดอยู่อย่างชัดเจน จึงถือว่าเป็นการให้ข้อมูลเท็จ

เรื่องยังไม่จบเพียงแค่นี้ น้องเอไปให้เอเย่นคนเดิมแก้เคส ยื่นครั้งที่ 3 พร้อมๆกับสามีก็ยื่นท่องเที่ยวว่าจะเดินทางไปด้วยกัน ปรากฏว่าโดนปฏิเสธด้วยเหตุผล PIC4020 คือให้ข้อมูลเท็จโดยสามีเองไม่ได้ให้ข้อมูลเท็จไปแต่อย่างใด แต่ตกกระใดพลอยโจนไปด้วยกัน โดน 4020 ทั้งคู่เพราะเกี่ยวข้องเป็นสามีภรรยากัน

คราวนี้กลายเป็นเรื่องซับซ้อนมากๆ เพราะน้องบีเองก็โดน ban ไปด้วย ไม่สามารถกลับไปเก็บตกวิชาเรียนที่ค้างๆอยู่ได้อีกด้วยวีซ่านักเรียน เพราะโดน ban 3 ปีด้วยวีซ่าท่องเที่ยวที่ตกกระใดพลอยโจนไปด้วยกันกับภรรยา การแก้เคสก็ต้องใช้ความมุมานะมากขึ้นอีกมากเลยค่ะ ค่าใช้จ่ายก็จะสูงเป็นเงาตามตัว เหมือนคนที่ป่วยธรรมดาไม่รักษาให้ถูกวิธี จนเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย หมอเก่งแค่ไหนก็อาจไม่สามารถรักษาให้หายได้แล้ว ก็มีความเป็นไปได้

ดังนั้น คุณหมอวีซ่าใคร่ขอเตือนท่านผู้อ่านทั้งหลายว่างานสายทำวีซ่าไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยว ไปเยี่ยมญาติ ไปเรียน ไปทำงาน ไปอยู่ ก็ตาม พึงต้องทำด้วยความระมัดระวัง กรอกเอกสารจัดเอกสารต้องให้ตรงตามที่กฎหมายกำหนด อย่าให้ข้อมูลหรือเอกสารเท็จไปเลยนะคะ อะไรที่เป็นความจริงมันก็จะเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ พูดจริงกรอกของจริงไป มันก็หนีความจริงไปไม่พ้น และจะช่วยให้วีซ่าที่ได้มา ไม่มีปัญหาอย่างที่น้องเอน้องบีเผชิญมาให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้วนะคะ

เอาล่ะค่ะ วันนี้ คุณหมอวีซ่าขอลาทุกท่านด้วยการเตือนให้ใส่ mask ให้หมั่นล้างมือ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงในยุคสารพัดไวรัสจนเราไม่รู้ตัวไหนเป็นตัวไหนแล้วนะคะ แต่ก็ยังดีที่ช่วงนี้ฝนลงที่ออสเตรเลียหลายพื้นที่ ไฟป่าก็ถึงฤดูมอดไปแล้ว อากาศกลับมาใสเหมือนเดิม อย่าลืมมางานวันเสาร์ที่ 7 March 2020 นี้ที่ CP Bangkok นะคะ ในงานนอกจากมีสัมมนา วิธีพิชิตการสอบ ​PTE Academic แล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่สถาบันออสเตรเลีย มาคุยมาพบทุกท่านอย่างใกล้ชิดเป็นกันเองค่ะ…See ya…

 

ผู้ที่สนใจมาร่วมงาน CP English and Vocational Day ของเราในวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2020 นี้

ห้องประชุมสำนักงาน CP International, Bangkok Office ชั้น 9 อาคารพหลโยธินเพลส (สถานีรถไฟฟ้าอารีย์ ทางออกที่ 4)

ลงทะเบียนร่วมงาน : https://cpinternational.com/th/events/cp-english-and-vocational-day/

 

ด้วยความปรารถนาดี

จาก คุณหมอวีซ่า