Dr Visa Article – 8 August 2019

วันนี้คุณหมอวีซ่ามีโอกาสอ่านหนังสือพิมพ์ The Australian ในบทความที่น่าสนใจทันเหตุการณ์ที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องของวีซ่าคู่ครองของประเทศออสเตรเลีย ซึ่ง Dr Bob Birrell ท่านเป็นอาจารย์ฝ่ายประชากรศาสตร์ของสถาบัน Monash University ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้ให้ความเห็นว่ากฎเกณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวกับการอนุมัติวีซ่าถาวรให้ผู้คนเข้ามาอาศัยอยู่ทำมาหากินในออสเตรเลียโดยอาศัยช่องทางของวีซ่าคู่ครองนั้น ถือว่าเป็นกฎเกณฑ์ที่มีความอ่อนแอมาก เนื่องจากปัจจุบันนี้กฎเกณฑ์กับเงื่อนไขในการขอเข้าไปอาศัยอยู่และทำมาหากินในออสเตรเลียพร้อมรับสวัสดิการต่างๆได้ด้วยวีซ่าตัวอื่นๆ เช่นวีซ่าทักษะ (Skills Visas) วีซ่านายจ้างสปอนเซอร์ (Employer Nomination) เป็นต้น มันเพิ่มยากมากขึ้นเหมือนจะเอื้อมไม่ถึงเข้าทุกวัน ดังนั้น ผู้คนจึงหันแห่กันไปอาศัยช่องทางของวีซ่าคู่ครองนี้เป็นช่องทางในการข้ามฝั่งสู่วีซ่าถาวร (permanent resident or PR) ของออสเตรเลียได้อย่างง่ายง่าย  Dr Birrell ยังได้พูดถึงโปรแกรม partner visa นี้ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากตัวเลขการอนุมัติวีซ่าคู่ครองที่สูงจากตัวเลข 41,994 คนเป็น 47,825 คนในช่วงระหว่างปี 2011 และ 2015 และยังให้ความเห็นว่า รัฐบาลควรยกระดับมาตรฐานของกฎเกณฑ์ให้เข้มงวดขึ้นมากกว่านี้ อย่างที่ทำกันในประเทศตะวันตกอื่นๆ เช่นที่สหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา เดนมาร์ก และเนเธอร์แลนด์ เป็นต้น

Complicated and Problematic Cases of Partner Visa Seminar by Dr. Visa.

Dr Birrell ยังให้ความเห็นอีกว่า ผู้คนได้เอารัดเอาเปรียบระบบวีซ่าของออสเตรเลีย โดยการใช้วีซ่าคู่ครอง (Partner Visa) เสมือนกับเป็นการเล่นเกมส์ โดยที่ไม่ได้เป็นคู่รักที่แท้จริง แต่ด้วยปัจจุบันวีซ่าตัวอื่นทำยากนัก จึงได้อาศัยวีซ่าคู่ครองที่ง่ายกว่าข้ามฝั่งสู่วีซ่าถาวรกันเป็นแถวๆ ดังนั้น รัฐบาลกลางของออสเตรเลีย จึงสมควรที่จะออกกฏหมายให้เข้มงวดขึ้นกว่าเดิม เพราะปัจจุบัน กฎเกณฑ์ของชาวออสซี่นั้น เรียกว่าง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศตะวันตกอื่นๆ ทั่วโลก

จะเห็นได้จาก เมื่อปีที่ผ่านมา จำนวนวีซ่าคู่ครองที่ออกให้กับผู้คนจากทั่วโลกนั้นเป็นจำนวนสูงถึง 25% ของจำนวนวีซ่าถาวรโดยรวมทั้งหมดของทั้งประเทศ ซึ่ง Dr Birrell แจ้งว่าการที่มีตัวเลขสูงถึงขนาดนี้ ทำให้เป็นที่น่าสงสัยว่า ใบสมัครวีซ่าคู่ครองต่างๆที่ยื่นเข้าไปนั้น เป็นจริงซักกี่กรณี

จากผลการวิจัยของท่าน ปัจจุบันนี้ ชาวออสซี่สามารถเป็นสปอนเซอร์ให้คู่ครองเข้ามาอยู่ในประเทศออสเตรเลียได้อย่างง่ายๆ คือ ขอเพียงแต่มีอายุเกิน 18 ปี ไม่มีเงิน ไม่มีงาน ก็เป็นสปอนเซอร์ได้ หรือจะยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ก็สามารถเป็นสปอนเซอร์ได้เช่นกัน และในส่วนของความสัมพันธ์นั้นก็เพียงแต่พิสูจน์ว่ามีหลักฐานความสัมพันธ์กันมาและพิสูจน์ว่าเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นจริง เพียงแค่นั้น ไม่ต้องมีมาตรฐานวัดระดับภาษาอังกฤษ หรือเงื่อนไขอื่นใดตามมาทั้งสิ้น ซึ่งถือว่าง่ายมาก

Complicated and Problematic Cases of Partner Visa Seminar by Dr. Visa.

Dr Birrell ยังกล่าวต่ออีกว่าบุคคลส่วนใหญ่ที่ขอวีซ่าคู่ครองนั้น จะเป็นชาวต่างชาติที่ปกติเข้ามาด้วยวีซ่านักเรียนมาเรียนหนังสือในประเทศออสเตรเลียก่อน แล้วก็เปลี่ยนเป็นวีซ่าคู่ครองต่อมา และอีกกลุ่มประชากรหนึ่งที่มีนิยมมาก ก็คือคนเอเชียที่เข้ามาในประเทศออสเตรเลียอยู่อย่างชั่วคราว  พอได้คู่ครองก็พาไปรู้จักกับครอบครัว แล้วขอวีซ่าคู่ครองตามเข้ามาอยู่ในออสเตรเลีย เป็นต้น ซึ่งคู่ครองหลายคู่ในกรณีแบบนี้ ถือว่าเป็นการเพิ่มภาระให้กับราษฎรและเศรษฐกิจที่ซิดนีย์กับเมลเบิร์นเป็นอย่างยิ่ง ต่างจากบางกลุ่มอื่นที่เข้ามาอยู่แล้วพร้อมทำงาน สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประเทศออสเตรเลียได้ทันทีอย่างเช่นกลุ่มที่เข้ามาด้วยวีซ่าทักษะ หรือวีซ่าทำงานที่มีนายจ้างเป็นสปอนเซอร์ให้เป็นต้น  ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง พณฯ David Coleman โต้ตอบว่า จริงๆแล้ว รัฐบาลมีแผนการควบคุมโครงการวีซ่าไว้ได้อย่างกระชับ และสำหรับจำนวนวีซ่าคู่ครองที่จะอนุมัติในปีนี้ ก็จะคงล็อกเอาไว้ที่ประมาณ 39,799 คนเพียงเท่านั้น

Complicated and Problematic Cases of Partner Visa Seminar by Dr. Visa.

การที่คุณหมอวีซ่าได้นำข่าวที่อ่านเจอนี้มาเสนอในบทความของคุณหมอวีซ่าในครั้งนี้ให้แฟนคลับคุณหมอวีซ่าได้อ่านกัน ก็เพราะว่าตามประสบการณ์กว่า 22 ปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่เหล่าอาจารย์ในมหาวิทยาลัยทั้งหลาย ไปทำวิจัยอะไรมา แล้วก็เอาบทความที่ทำวิจัยมานำเสนอในหน้าข่าว ก็มักจะทำให้รัฐบาลนำไปคิด และหลายครั้งก็ตามมาด้วยการเปลี่ยนแปลงกฎวีซ่าต่างๆให้ยากขึ้นทุกครั้ง เยี่ยงตัวอย่างวีซ่านักเรียนที่ผ่านมาเป็นต้น ดังนั้นสำหรับคนที่มีคู่ครองชาวออสซี่และกำลังจะดำเนินเรื่องการยื่นวีซ่าคู่ครอง ถ้าเป็นไปได้ก็ให้รีบยื่นซะ ก่อนจะมีการเปลี่ยนกฎให้ยากขึ้น ในราคาที่แพงขึ้นอีกนะคะ

อย่างบทความที่แล้วที่คุณหมอวีซ่าได้ลงไปในการยกตัวอย่างกรณีซับซ้อนของวีซ่าคู่ครองนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะราบรื่น หรือง่ายดายอย่างที่ท่านอาจารย์ท่านลงความเห็นเสมอไป จึงไม่ได้เห็นด้วย 100% เลยทีเดียวว่ากฎการทำวีซ่าคู่ครองยังไม่เข้มงวดเพียงพอในปัจจุบัน เพราะหลายคู่ก็ไม่ราบรื่น ต้องฟันฝ่ามรสุมชีวิตจริงที่ลำบากมาไม่น้อยเหมือนกัน เพียงแต่ตามประสบการณ์ที่ทำวีซ่าคู่ครองมานับนานปี คุณหมอวีซ่ากลับมองว่ารัฐบาลออสเตรเลียนั้น เป็นรัฐบาลที่มีความเป็นมนุษยธรรมสูงพอสมควรเลยทีเดียว เนื่องจาก หากรับเรื่องว่าฝ่ายที่ถูกสปอนเซอร์นั้นถูกกระทำชำเรา ถูกรังแก หรือเกิดความรุนแรงในครอบครัว หรือฝ่ายสปอนเซอร์ไม่ดูแล ไม่เลี้ยงดู มีการกระทำให้เกิดทุกข์ทางจิตใจ หรือร่างกายต่างๆนานาสารพัดก็ตาม รัฐบาลออสเตรเลียก็มีข้อยกเว้นพิเศษให้กับบุคคลกลุ่มนี้ให้สามารถข้ามฝั่งไปถือวีซ่าถาวรได้โดยไม่ต้องอาศัยสปอนเซอร์ชาวออสเตรเลียเซ็นต์รับรองสปอนเซอร์ต่อเนื่องให้ต่อไป ก็สามารถข้ามฝั่งไปเป็น PR เองได้ คุณหมอวีซ่ากับทีมงานได้ช่วยมามากคู่จนนับไม่ถ้วนแล้วใน 20 กว่าปีของการทำวีซ่าช่วยเหลือผู้คนมามากต่อมาก ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

Complicated and Problematic Cases of Partner Visa Seminar by Dr. Visa.

หากท่านผู้อ่านท่านใดมีความสนใจในเรื่องของวีซ่าคู่ครอง (Partner Visa) ของประเทศออสเตรเลีย หรือมีเพื่อน หรือญาติที่กำลังดำเนินเรื่องวีซ่าคู่ครองอยู่ หรือได้ยื่น ได้รับวีซ่าชั่วคราว 2 ปีไปแล้ว แต่เกิดปัญหากับคู่ โดนขู่จะเพิกถอนวีซ่าเรา หรือด้วยเหตุอื่นอื่นใดก็ตาม ขอเชิญมาพบกับคุณหมอวีซ่าและทีมงานในวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2019 ตั้งแต่เวลา 13.00 ถึง 16.00 น. ที่ CP International อาคารพหลโยธินเพลสชั้น 9 BTS อารีย์

สมัครเข้าร่วมงาน สัมมนาวีซ่าคู่รักมีปัญหาและเคสซับซ้อน โดยคุณหมอวีซ่า

งานสัมมนาที่ CP International อาคารพหลโยธินเพลส ชั้น 9 วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2562 เวลา 13.00 - 16.00 น.

ติดต่อเจ้าหน้าที่ของเราโดยตรง