7 Jan 2019

บ๊ายบายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ค่ะ แฟนคลับบล็อกคุณหมอวีซ่าทุกท่านค่ะ ปีใหม่แล้วขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ รวยวันรวยคืนมีเงินใช้อย่างไม่ขาดสาย และที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด ก็คือมีสุขภาพที่ดีกันถ้วนหน้าทั้งสำหรับปีนี้และปีต่อๆไปค่ะ ทางด้านวีซ่าปีที่ผ่านมาเราได้เจอกับการเปลี่ยนแปลงของวีซ่ากันมามากพอควร โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับวีซ่าทำงานและวีซ่าทักษะ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนกฎเกณฑ์วีซ่าทำงานที่มีนายจ้างเป็นสปอนเซอร์ให้ จากวีซ่า 457 ตัวเดิม มาเป็นวีซ่าใหม่ที่เรียกชื่อว่า Temporary Skilled Shortage visa (หรือย่อว่า TSS) ที่เริ่มเปลี่ยนกฎกันมาตั้งแต่เดือนเมษายนของปีที่ผ่านมา ซึ่งสร้างเสียงต่อต้านขึ้นมาได้มากพอควร ความจริงแล้ว การเปลี่ยนกฎของวีซ่า 457 นั้น ทางรัฐบาลก็ยังอลุ่มอลุ่ยกับการเอื้ออาทรให้ผู้ที่ถือ 457 มาครบสองปีที่มีคุณสมบัติเพียงพอให้ข้ามฝั่งไปเป็น PR sc186 ได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว แต่การเตรียมเคสเข้าไปนั้น คุณหมอวีซ่าขอถือโอกาสเตือนทุกท่านที่เกี่ยวข้องว่า ควรจะต้องทำเป็น complete application คือส่งเอกสารให้ครบเสทและถูกต้องตามที่กฎหมายเรียกร้องให้พร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่ทำการตัดสินใจได้โดยไม่ต้องหวนกลับมาขอเอกสารเพิ่มเติมให้นัวเนียล่าช้าอีก อนึ่ง ข้อมูลกับเอกสารประกอบที่แนบเข้าไปก็ต้อง make sense นะคะ อย่างเช่นเมื่อเร็วๆนี้ คุณหมอวีซ่ามีโอกาสช่วยดูเคสที่นายจ้างท่านหนึ่งได้ยื่น Nomination กับ Application ให้คุ๊กข้ามฝั่งไปเป็น PR sc186 แต่โดนปฏิเสธกลับมา เพราะเรื่องตัวเลขเงินเดือนดูไม่สมจริงสมจัง อย่างเช่นร้านที่มีการจ้างคนถึง 4-5 คนทำงาน แต่จำนวนเงินเดือนประจำปีที่จ่ายที่ทางนักบัญชีทำขึ้นมาให้ ยังมีจำนวนต่ำกว่าเงินเดือนที่ต้องจ่ายให้แก่คุ๊กเพียงคนเดียวตามข้อเรียกร้องของกฎหมายซะอีก ดังนั้น ผู้ที่ปัจจุบันกำลังถือวีซ่า 457 และเตรียมตัวจะข้ามฝั่งไปเป็น PR sc186 ควรเตือนนายจ้างให้ลองนัดคุยกับ  Accountant ทำตัวเลขให้ดีๆ อย่าคิดแค่แต่ว่าจะประหยัดค่าภาษีแต่เพียงอย่างเดียวนะคะ การสปอนเซอร์วีซ่าของคุ๊กให้ผ่านก็มีความสำคัญมากต่อธุรกิจของทางร้าน ร้านอาหารที่ปราศจากคุ๊กดีๆ ก็เสมือนร่างของคนที่ไม่มีหัวใจที่แข็งแรงนะคะ จะดำเนินต่อไปก็ลำบากพอควรค่ะ ยังมีเรื่องของ Training Benchmark ที่นายจ้างต้องคอยจับตาดูและทำตามกฎหมายให้แน่ชัดภายในช่วงระยะเวลาที่สปอนเซอร์ผู้ถือวีซ่า 457 ค่ะ ถึงกฎใหม่ปัจจุบันจะเปลี่ยนเป็น 482 แล้วก็ตาม กฎหลายๆอย่างก็ยังคงต้องคอยติดตามทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่พอวีซ่าออกแล้วก็ทิ้งเลย พอถึงเวลาข้ามฝั่ง ค่อยมารวบรวมเอกสาร อย่างเช่นเรื่องของการจัดเงินเดือนกับการส่งพนักงานไปอบรม ก็ไม่ทันซะละค่ะ

ต่อมาก็วีซ่าทักษะก็ได้มีการปรับแต้มทักษะให้สูงเพิ่มขึ้นอีก 5 คะแนน กลายเป็นแต้มขั้นต่ำต้องผ่านที่ 65 คะแนน ที่น่าจับตามองก็คือ ถึงคะแนนผ่านจะอยู่ที่ 65 แต้มในการยื่น Expression of Interests หรือ EOI ก็จริง ในบางอาชีพที่เป็นที่นิยม อย่างเช่น Accountant กับ IT ผู้สมัครในยุคหลังๆนี้ กลับทำคะแนนได้สูงถึง 70-80 แต้ม ทำให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างไม่คาดคิด จึงเป็นเหตุให้ผู้ที่ได้คะแนนน้อยกว่าไม่ได้รับการเชิญให้สมัคร PR เป็นต้น แต่โชคดีที่ร่างกฎหมายขอสัญชาติออสเตรเลียยังไม่ผ่านรัฐสภาทำให้หลายท่านสามารถสอบและขอสัญชาติออสเตรเลียผ่านไปได้ใบ Australian Citizenship Certificate มาครอบครองมากมายหลายท่าน ซึ่งคุณหมอวีซ่าก็ขอแสดงความยินดีด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ

สำหรับปีนี้การเปลี่ยนกฎวีซ่าจะมีแนวโน้มเช่นไร ก็ต้องขยันติดตามอ่านบทความของคุณหมอวีซ่ากันไปตลอดเรื่อยๆ เลยนะคะ

เมื่อสองปีที่ผ่านมารัฐบาลออสเตรเลียได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันความรุนแรงในครอบครัว หรือ Family Violence สำหรับผู้สมัครวีซ่าคู่หมั้นและคู่ครอง ที่มีชื่อว่า Prospective Marriage visa และ Partner visa ดังจะเห็นได้จากประมาณกลางปี 2016 อิมมิเกรชั่นจะขอใบตรวจตำรวจของสปอนเซอร์ทุกคนไม่ว่าจะมีเด็กต่ำกว่า 18 ปีติดตามด้วยหรือไม่ก็ตาม สปอนเซอร์จะต้องให้เอกสารนี้กับตำรวจว่าไม่มีประวัติความรุนแรงใดๆที่ผ่านมา วีซ่าของผู้สมัครจึงจะได้รับการอนุมัติค่ะ ในปีนี้คาดว่าความเข้มข้นและระบบการป้องกัน Family Violence จะเพิ่มมากขึ้นกว่าทุกปี แน่นอนว่าวีซ่าที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบหลายปีที่ผ่านมา คือ Partner visa นั่นเองค่ะ หลายท่านอ่านแล้วอาจจะตกใจ แต่คุณหมอวีซ่าขอเน้นย้ำตรงนี้ก่อนว่ากฎหมายนี้ยังไม่มีผลบังคับใช้ตอนนี้ค่ะ

Partner visa คืออะไร

วีซ่าประเภทนี้เป็นวีซ่าที่ให้บุคคลที่ถือสัญชาติออสเตรเลีย ประชากรถาวร (PR) ของออสเตรเลีย หรือผู้ถือสัญชาตินิวซีแลนด์สปอนเซอร์คู่รักต่างชาติให้เข้ามาอยู่อาศัยในออสเตรเลียกับตนได้ค่ะ โดยคู่รักจะมีความสัมพันธ์แบบอยู่กินฉันท์สามีภรรยาโดยไม่จดทะเบียนสมรส (De Facto) หรือจะจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย หรือจะจดเพียงทะเบียนความสัมพันธ์ก็ได้เช่นกันค่ะ โดยไม่ว่าจะเป็นคู่รักต่างเพศหรือคู่รักเพศเดียวกันก็ได้ค่ะ

สถานการณ์ปัจจุบัน

ปัจจุบันการยื่นขอ Partner visa เราสามารถยื่นใบสมัครของผู้สมัครและสปอนเซอร์เข้าไปให้เจ้าหน้าที่พิจารณาในเวลาเดียวกันพร้อมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการยื่นฟอร์มทั้งนอกและในประเทศออสเตรเลีย สำหรับระยะเวลาการพิจารณาผลวีซ่าตาม Global Standard Processing time ปัจจุบันของอิมมิเกรชั่น ถ้ายื่นนอกประเทศออสเตรเลียด้วยวีซ่า sc300 หรือ sc309 ก็ประมาณ 12-17 เดือน แต่ถ้ายื่นภายในประเทศออสเตรเลียด้วยวีซ่า sc820 ก็ใช้เวลาพิจารณาประมาณ 21-26 เดือน ข้อแตกต่างก็คือ ผู้สมัครที่ยื่นขอ Partner visa ณ เวลาที่ตนอยู่ในออสเตรเลีย เมื่อวีซ่าตัวเก่าหมด ผู้สมัครก็จะได้รับ Bridging visa A (BVA) ให้อยู่ในออสเตรเลียโดยอัตโนมัติในระหว่างที่รอผล Partner visa และขณะที่ผู้สมัครถือ BVA ก็สามารถทำงานได้และได้สิทธิ์รับการรักษาพยาบาลฟรีจากหมอที่เก็บค่าหมอแบบที่เรียกว่า bulk billing ตามระบบของ Medicare ค่ะ ในขณะเดียวกันถ้าอยากกลับบ้านก็เปลี่ยน BVA เป็น BVB เพื่อเดินทางออกนอกออสเตรเลีย และกลับเข้าออสเตรเลียภายในเวลาที่กำหนดเพื่อรักษาสิทธิ์เดิมต่อได้ค่ะ อย่างนี้หลายคนจึงชอบยื่น Partner visa ในประเทศออสเตรเลียมากกว่าเพราะได้สิทธิประโยชน์หลายทางและยังได้อยู่กับคู่รัก ไม่แยกจากกันไป กลัวรักจะจืดจางไงคะ

การเปลี่ยนแปลง

ร่างกฎหมายฉบับแก้ไข Migration Amendment (Family Violence and Other Measures) Bill

ผ่านรัฐสภาเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา ร่างนี้จะเป็นกฎหมายทันทีที่มีการลงนามและประกาศบังคับใช้ค่ะ  ซึ่งคุณหมอวีซ่าก็ไม่ทราบว่ากฎหมายนี้จะมีผลเมื่อไหร่นะคะ ทันทีที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ เอกสารวีซ่าที่ยื่นไปก็จะต้องเป็นไปตามกฎใหม่ค่ะ

สิ่งเปลี่ยนแปลงใหม่ของ Partner visa ที่สำคัญมาก ก็คือ

คู่รักชาวออสซี่ต้องยื่นเอกสารก่อนเป็นอันดับแรกและต้องได้รับการอนุมัติว่าเป็นสปอนเซอร์ได้เสียก่อน ถึงจะเข้าขั้นตอนการยื่น Partner visa ตามปกติ โดยสองขั้นตอนนี้จะได้รับการแยกกันพิจารณาค่ะ

ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

แน่นอนว่าผลการพิจารณาอาจจะนานขึ้นถึง 3 ปีขึ้นไปก็ว่าได้ อีกทั้งยังกันไม่ให้ผู้สมัครเข้าไปอาศัยอยู่และทำงานในออสเตรเลียระหว่างรอผลวีซ่าค่ะ เป็นไปได้ว่าขั้นตอน Australian Resident Sponsorship อาจใช้เวลาพิจารณายาวนานถึง 12-18 เดือนค่ะ หากขั้นตอนสปอนเซอร์ยังไม่ได้รับการอนุมัติผู้สมัครก็ไม่สามารถยื่นขอวีซ่าต่อได้ค่ะ และหากวีซ่าผู้สมัครหมดอายุในระหว่างรอผล Sponsorship Approval ก็ต้องออกนอกออสเตรเลียจนกว่าขั้นตอนแรกนี้จะผ่านนะคะ จึงจะยื่น Partner visa application ตามปกติได้ และถ้ายื่นที่ออสเตรเลีย ก็ถึงจะถือ BVA รอผลวีซ่ายาวๆ อยู่และทำงานได้ในออสเตรเลียได้ค่ะ

แล้วต้องทำอย่างไรดีเนี่ย?

ถ้าใครมีแพลนจะยื่น Partner visa โดยเฉพาะยื่นในประเทศออสเตรเลีย ตอนนี้ฤกษ์งามยามดีละค่ะ รีบทำรีบยื่นก่อนที่กฎใหม่จะมีผลบังคับใช้นะคะ ด้วยความหวังดีค่ะ!

จากประสบการณ์ของคุณหมอวีซ่าที่ให้คำปรึกษาคู่รักในเรื่องวีซ่ามาแล้วหลายต่อหลายคู่ เชื่อคุณหมอวีซ่าเถอะค่ะว่าเอกสารครบแล้วรีบยื่นก่อนอะไรจะเปลี่ยนแปลงไป กฎวีซ่าใหม่เปลี่ยนยังเรื่องเล็ก แต่ที่ลูกค้าหลายๆ ท่านเจอกันมา ใจคนเปลี่ยนนี่ล่ะเรื่องใหญ่ อ้าว! จู่ๆก็กลายเป็นไม่มีสปอนเซอร์ไปเสียแล้ว ซ้ำร้ายบางท่านรับคำปรึกษาจากคุณหมอวีซ่าไปแล้วไม่เชื่อฟังไปยื่นกันเองผิดๆถูกๆ กรอกข้อมูลตอบสัมภาษณ์ผิดๆถูกๆโดยไม่มีใครให้ปรึกษา ส่งผลให้วีซ่าโดนปฏิเสธกลับมา มีอยู่หนึ่งเคสที่น่าเศร้ามากๆ เพราะคุยกันเสร็จ ลูกค้าหายไปเลย กลับมาทักคุณหมอวีซ่าอีกทีก็ตอนที่สปอนเซอร์ได้จากโลกนี้ไปแล้ว ทำให้พลาดโอกาสไปทั้งแม่และลูก คุณหมอวีซ่าเองอยากช่วยเหลืออย่างไรก็ทำไม่ได้แล้วค่ะ ถึงจุดนี้ ได้แต่แสดงความเสียใจแต่อย่างเดียวเลยค่ะ

เรื่องวีซ่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อชีวิต ต่ออนาคตของคนๆหนึ่งมาก หากทำผิดพลาดแล้วแก้ได้ก็ถือว่าโชคดีไป แต่บางกรณีก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณหมอวีซ่าพูดเสมอว่า กระเป๋ายี่ห้อแพงๆไม่หิ้วก็ไม่เป็นไร วันหลังมีเงินจะซื้อเมื่อไรก็ได้ แต่ค่าใช้จ่ายเรื่องวีซ่า เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เป็นการลงทุนเพื่อซื้ออนาคตให้กับตนเอง ต้องเดินให้ถูกทางเสียตั้งแต่ต้น อย่ามั่วอย่าเดาอย่าเชื่อคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย จนตัวเองต้องลำบากภายหลัง

ถ้าใครต้องการมารับคำปรึกษาวีซ่ากับคุณหมอวีซ่า พร้อมให้เตรียมเอกสารยื่นวีซ่าให้ ก็ติดต่อทีมงาน https://cpinternational.com/contact-us/ จองคิวกันเข้ามาได้ค่ะ ช่วงนี้คุณหมอวีซ่าอยู่ประจำที่ซิดนีย์ ถ้าใครอยู่กันคนละที่เราก็ปรึกษาออนไลน์กันได้นะคะ โลกมันแคบลงมากในสมัยนี้ ส่วนแฟนๆ ที่อยู่ทางฝั่งกรุงเทพรออีกนิดนึงนะคะ คุณหมอวีซ่าใกล้กลับกรุงเทพแล้วกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ค่ะ แล้วเจอกันค่ะ

ฝากกันนิดนึงกับงานที่กำลังจะจัดขึ้นเร็วๆนี้ อย่าพลาดกับทุนการศึกษามากมายภายในงานค่ะ
ฝากกันนิดนึงกับงานที่กำลังจะจัดขึ้นเร็วๆนี้ อย่าพลาดกับทุนการศึกษามากมายภายในงานค่ะ
สุดท้ายนี้ สวัสดีปีใหม่ทุกคนค่ะ
สุดท้ายนี้ สวัสดีปีใหม่ทุกคนค่ะ
มีคำถามเกี่ยวกับการสมัครหรือสถานะวีซ่าออสเตรเลียของคุณ? ต้องการสมัครเพื่อศึกษาต่อ ทำงาน หรืออาศัยอยู่ในออสเตรเลีย? สามารถขอคำแนะนำจากทีมคุณหมอวีซ่าได้ที่: