Dr Visa Article – 7 December 2018

“ออสเตรเลีย” เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและมีทั้งความมั่นคงกับความมั่งคั่งมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP สูงถึง AUD$1.69 ล้านล้านเหรียญในปี ค.ศ. 2017 ที่เพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆ จัดเป็นประเทศที่มีอัตราความร่ำรวยต่อราษฎรผู้ใหญ่หนึ่งคนสูงเป็นอันดับที่สองของโลกรองจากประเทศ Switzerland ทรัพย์สินแห่งชาติของประเทศออสเตรเลียมีมูลค่าสูงถึง AUD$8.9 ล้านล้านเหรียญซึ่งเป็นตัวเลขที่คำนวณไว้เมื่อเดือนมิถุนายน 2016 นับเป็นเศรษฐกิจระดับชาติระหว่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 14 ของโลกโดย nominal GDP แถมยังเป็นประเทศที่มีการเติบโตของ GDP อย่างสม่ำเสมอด้วยดีมาโดยตลอด 26 ปีที่ผ่านมา ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และถึงแม้จะมีการถดถอยทางอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในระยะปีหลังๆนี้ลงไปบ้าง แต่เศรษฐกิจของประเทศออสเตรเลียก็ไม่ได้รับผลกระทบกระเทือน กลับยังความยืดหยุ่น นำความเฟื่องฟู และคงความมั่นคงไว้ด้วยการค้าทางธุรกิจสายบริการและอื่นๆ จนสามารถรักษาระดับเศรษฐกิจให้ยั่งยืนนมนานมาตั้งหลายปีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 จนปัจจุบัน ราษฎรจึงได้อยู่ดีกินดี ประเทศทวีปในขั้วโลกใต้แห่งนี้ จึงได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศระดับแนวหน้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ยิ่งกว่านั้น ออสเตรเลียยังเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มากมาย มีทิวทัศน์ที่สวยงาม มีสภาพแวดล้อมที่สะอาดตระการตาเป็นระเบียบ สภาพภูมิอากาศอากาศที่เย็นสบาย ไม่มีหิมะตกให้ลำบากต่อการกินอยู่หรือสัญจร ประกอบกับอำนวยคุณภาพชีวิตที่ดีมากให้กับพลเมือง ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ การศึกษา การงาน การทำธูรกิจ ความเสรีทางเศรษฐกิจ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนและทางการเมือง เมืองต่างๆหลายเมืองในออสเตรเลีย เช่น นครเมลเบิร์น (Melbourne) ได้รับการจัดติดอันดับให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกมาแล้ว 7 ปีซ้อน และที่ติดอันดับใน 10 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกก็โดนออสเตรเลียคว้าเพิ่มไปอีก 2 เมือง คือ นคร Adelaide กับ Perth

(Source: https://www.usnews.com/news/best-countries/articles/2017-08-16/melbourne-is-still-chief-among-the-best-cities-to-live-in-the-world)

จากการที่รัฐบาลออสเตรเลียมีนโยบายสนับสนุนให้นักเรียนนักศึกษานานาชาติจากทั่วโลกให้เข้าไปทำการศึกษาต่อในประเทศออสเตรเลีย กับยินดีต้อนรับผู้ที่มีทักษะ มีวุฒิและความสามารถในวิชาชีพสายต่างๆให้สามารถเข้าไปตั้งหลักแหล่งอย่างถาวร เพื่อทำงาน สร้างครอบครัว และเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยกันสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญรุดหน้า และด้วยสภาพความเป็นอยู่ที่ดีเยี่ยม การบริการสวัสดิการสังคมที่หาประเทศอิ่นเทียบเคียงได้ยาก กับเศรษฐกิจที่เติบโตรุดหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง จึงทำให้ประเทศออสเตรเลีย กลายเป็นประเทศที่ดึงดูดให้นักเรียนนักศึกษาจากทั่วโลกอยากเข้ามาศึกษาต่อที่นี่ และนักลงทุน นักธุรกิจ กับผู้มีทักษะและความสามารถจากทั่วโลกก็อยากอพยพเข้ามาตั้งหลักแหล่งทำมาหากินและสำราญกับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดียิ่งของที่นี่

หลายท่านพูดถึงออสเตรเลียว่าเป็น “ดินแดนแห่งโอกาสทอง” สำหรับผู้คนที่อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยมทั้งกับการสร้างฐานะสร้างอนาคตให้ไม่แต่เฉพาะกับตนเอง หากแต่กับครอบครัวลูกหลานไปอีกหลายชั่วคนด้วยสิทธิและผลประโยชน์ที่จะได้รับจากรัฐบาลของประเทศที่ยิ่งใหญ่ เงียบสงบ และน่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกแห่งนี้ จากการได้ถือวีซ่าถาวร (Permanent Residence หรือเรียกย่อๆว่า PR) ของประเทศนี้ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิพิเศษต่างๆในฐานะที่เป็น PR ของออสเตรเลีย ยกตัวอย่าง เช่น

  1. สิทธิในการได้พักอาศัยอยู่ ทำงาน หรือเรียนหนังสือในประเทศออสเตรเลียได้อย่างถาวร สามารถเดินทางเข้าออกประเทศได้โดยรัฐบาลจะออกวีซ่าเดินทางที่เรียกว่า Resident Return Visa (RRV)ให้ครั้งละ 5 ปี ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และเมื่อ RRV หมดอายุไป ผู้ที่ถือ PR ก็สามารถอาศัยอยู่ในออสเตรเลียต่ออย่างถาวรไปได้เรื่อยๆ จนกว่ามีความจำเป็นจะต้องเดินทาง ก็ไปยื่นขอ RRV ตัวใหม่ได้อีกเพื่อใช้เดินทางเข้าๆออกๆต่อไปอีก 5 ปีไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะได้สิทธิ์ขอสัญชาติออสเตรเลียได้
  2. จาก PR เราสามารถขอเป็น Australian Citizen ได้ในเวลาต่อมาหลังจากถือ PR ครบกำหนดตามจำนวนปีและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนดกฎเกณฑ์ของกฎหมายว่าด้วยการขอซิติเซ่น สำหรับคนไทยเรานั้นโชคดีมาก เพราะเรามีสิทธิ์ถือได้สองสัญชาติ เป็น dual citizens ถือพาสปอร์ตได้สองเล่ม สร้างความสะดวกให้กับการเดินทางไปไหนมาไหนทั่วโลกเป็นอย่างมาก หลายคนบอกว่าพาสปอร์ตออสเตรเลีย มีค่ายิ่งกว่าทองแท่ง เนื่องจากสามารถใช้เดินทางเข้าออกประเทศต่างๆทั่วโลกได้ถึง 169 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า จึงจัดเป็นพาสปอร์ตที่ติดอันดับหนึ่งในสิบพาสปอร์ตที่ดีที่สุดในโลก
  3. ผู้ถือ PR สามารถทำงานได้เต็มเวลา ไม่ว่าจะทำให้กับนายจ้างคนใด ในงานสาขางานใดก็ตามที่ตนถนัด แต่ยังไม่สามารถรับราชการทหารหรือเล่นการเมืองได้จนกว่าจะขอสัญชาติเป็น Australian citizen เสียก่อน
  4. ได้สิทธิ์ถือบัตรสุขภาพที่เรียกว่า Medicare ซึ่งใช้หาหมอรักษาโรคได้โดยไม่ต้องเสียค่ารักษาสำหรับแพทย์ที่มีระบบ bulk bill อีกทั้งผู้ที่เลือกซื้อประกันสุขภาพ ก็จะซื้อได้ในราคาที่ถูกลงในฐานะที่เป็น PR ของออสเตรเลีย เช่นกัน
  5. สิทธิประโยชน์ทางสวัสดิการทางสังคม ที่เรียกว่า Social Welfare โดยผู้ที่ถือ PR ของออสเตรเลียสามารถใช้บริการจากหน่วยงานบริการสวัสดิการทางสังคมที่ชื่อว่า Centrelink ได้ อย่างเช่น นักเรียนที่ยังเรียนหนังสืออยู่ ผู้อยู่ในยามตกงาน เจ็บไข้ได้ป่วยจนทำงานไม่ได้ คนชรา ผู้ที่เกษียณแล้ว หรือผู้มีอาการทุพพลภาพ เป็นต้น ก็สามารถรับเงินช่วยค่าครองชีพจากรัฐบาลได้ฟรี หรือบางส่วนตามแต่กรณีต่างๆ
  6. เรียนหนังสือฟรีตั้งแต่อนุบาลไปจนจบชั้นมัธยมตอนปลายในโรงเรียนของรัฐ พอเข้ามหาวิยาลัยก็สามารถเรียนโดยรัฐบาลจะให้เงินยืมให้เรียนฟรีไปก่อน ที่เรียกชื่อว่าระบบ HELP พอจบออกไปทำงาน ค่อยมาใช้คืนรัฐในรูปแบบของภาษีหักคืนทีละนิด แถมยังได้เรียนฟรีในวิทยาลัยอาชีวะของรัฐที่มีชื่อเรียกว่า TAFE ตามรัฐต่างๆทั่วทุกรัฐ
  7. เดินทางเข้าออกประเทศพี่น้อง คือ New Zealand โดยไม่ต้องขอวีซ่า
  8. สามารถเป็นสปอนเซอร์ให้กับครอบครัวให้มาร่วมถือ PR ที่ออสเตรเลียได้ เช่น คู่ครอง พ่อแม่ ลูก
  9. หากซื้อบ้านหลังแรก PR สามารถรับสิทธิประโยชน์ในฐานะที่ First Home Owner Grant เป็นจำนวนถึง AUD10,000 ได้ รวมยกเว้นค่าอากรซื้อบ้านเป็นหลังแรกในออสเตรเลียเพื่อการอาศัยอยู่ จึงไม่ต้องตกอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์การควบคุมของ Foreign Investment Review Board สำหรับชาวต่างชาติที่ประสงค์จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลีย เพราะถือว่าเราป็นผู้ถือถิ่นฐานถาวร หรือเป็น PR แล้ว
  10. สิทธิ์ในการเป็น PR นั้น ยังเอื้อประโยชน์ให้กับลูกที่เกิดภายในประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากลูกจะได้สัญชาติออสเตรเลียทันทีที่เกิด ซึ่งก็หมายถึงลูกก็จะได้ใช้สิทธิ์ต่างๆทั้งทางการศึกษา สุขภาพ สวัสดิการสังคมต่างๆในฐานะที่เป็นซิติเซ่นของออสเตรเลียคนหนึ่ง
  11. การได้มาซึ่งสัญชาติออสเตรเลีย ยังช่วยให้เราได้Credit rating ได้ง่ายขึ้นมากในการขอยืมเงินซื้อบ้าน ซื้อรถ กับการขอบัตรเครดิตทั้งปวง เป็นต้น

“Australia” เป็นประเทศที่ให้โอกาสกับคนทั่วโลก จึงเห็นได้ว่า คนหนุ่มคนสาวจากทั่วโลกในยุคปัจจุบัน จึงมักเลือกออสเตรเลียเป็น Study Destination ของพวกเขามาเป็นอันดับแรก เพราะเขารู้ว่าหลังเรียนจบแล้ว เขาสามารถขอวีซ่า Temporary Graduate ให้เขาได้สิทธิ์ทำงานในออสเตรเลียได้ ปีด้วยวีซ่า 485 จากนั้นยังมีวีซ่านายจ้างสปอนเซอร์รองรับ กับวีซ่าทักษะประเภทต่างๆที่สามารถช่วยเขาให้ข้ามฝั่งไปเป็น Australian PR จนกลายเป็น Australian citizen ในวันหนึ่งข้างหน้า และเป็น dual citizens ในที่สุด

แต่หนทางการได้มาซึ่งวีซ่าถาวร (Permanent Residence หรือ PR) จนกลายเป็น Australian citizen นั้นเป็นกระบวนการขั้นตอนที่ต้องใช้เวลา และต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายและคล้องจองตามนโยบายของรัฐบาลออสเตรเลีย ณ เวลาที่สมัครวีซ่า ไม่ว่าจะผ่านช่องทางของการลงทุน การเปิดธุรกิจ การเรียน การใช้ทักษะจากวุฒิบัตรและประสบการณ์ทำงาน ทักษะทางภาษา เป็นต้น หากคุณต้องการทราบว่า คุณมีสิทธิ์ที่จะยื่นขอวีซ่านักเรียนเพื่อไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย หรือขอวีซ่าถาวร เพื่อไปอาศัยอยู่ และทำงานได้หรือไม่นั้น ขอแนะนำว่า นัดเข้ามาให้ Registered Migration Agent (RMA) ของเราประเมินดู อาจเป็นการคุยที่เปลี่ยนเข็มชีวิตของคุณในการสร้างโอกาสใหม่ให้กับอนาคตของตัวคุณเองก็ได้ ติดต่อที่:

คุณเมย์ 081-3596190

มีคำถามเกี่ยวกับการสมัครหรือสถานะวีซ่าออสเตรเลียของคุณ? ต้องการสมัครเพื่อศึกษาต่อ ทำงาน หรืออาศัยอยู่ในออสเตรเลีย? สามารถขอคำแนะนำจากทีมคุณหมอวีซ่าได้ที่: