Dr Visa Article – 3 December 2018

ทำไมถึงต้องเลือกไปเรียนที่ออสเตรเลีย? เส้นทางหลังเรียนจบปริญญาหรืออนุปริญญาที่ออสเตรเลีย

Why Australia? Pathways for your future upon graduation from an Australian degree or diplomas.

สวัสดีค่ะแฟนๆของคุณหมอวีซ่าทุกท่าน ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กันแล้วนะคะ คุณหมอวีซ่าเชื่อว่าหลายๆคนคงตั้งปณิธานกันว่าในปีใหม่นี้ ฉันก็จะทำอะไรใหม่ๆ วางแผนเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นบ้าง หรือวางแผนอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับตนเองบ้าง คุณหมอวีซ่าก็เช่นกันค่ะที่มีความปรารถนาดีให้แฟนๆคนหนุ่มคนสาวที่อยากจะสร้างอนาคตใหม่ๆให้กับตนเองที่ออสเตรเลีย เปิดโลกทัศน์ของตนเองให้กว้างขึ้น กระโดดออกไปนอกบ่อที่เราอาศัยอยู่มานานจนคุ้นเคยไปสัมผัสโลกภายนอกว่ามีอะไรที่สามารถท้าทายตนเองให้ก้าวไปไกลกว่าปัจจุบันนี้ได้บ้าง โดยเริ่มต้นง่ายๆจากการเดินทางสายการศึกษาต่อในการเลือกเรียนในสายวิชาอาชีพที่เป็นที่ต้องการของออสเตรเลีย จะเรียนในสายปริญญา หรือสายอาชีวะที่สามารถช่วยให้เราได้งานทำหลังเรียนจบ จนไปถึงการได้เป็นผู้ถือถิ่นฐานถาวร หรือ Permanent Resident (PR) ของออสเตรเลีย ยาวตลอดไปจนไปถึงการได้ถือเพิ่มอีกหนึ่งสัญชาติ คือถือทั้งสองสัญชาติไทยกับออสเตรเลียไปพร้อมๆกันเลยค่ะ เพื่ออนาคตที่มีความหวังและสดใสมากกว่า ดังนั้น บทความในวันนี้ คุณหมอวีซ่าจึงอยากจะคุยให้ฟังถึงช่องทางที่เริ่มต้นจากการเรียนตลอดไปจนถึงการขอวีซ่าที่อนุมัติให้เราอยู่ทำงานต่อที่ออสเตรเลียได้ ตลอดไปจนถึงการขอวีซ่าที่มีนายจ้างเป็นสปอนเซอร์ให้ในยุคใหม่นี้ และขอวีซ่าถาวรอย่างต่อเนื่อง พร้อมชี้แจงแนวการขอซิติเซ็นให้เป็นซีรี่ย์แต่ละ shot ๆ ไปในแต่ละ blog เรื่องเล่าจากคุณหมอวีซ่าให้อ่านกัน สำหรับวันนี้ ขอเริ่มจากการเรียนและวีซ่าหลังเรียนจบที่ออสเตรเลียตัวง่ายๆก่อนนะคะ แล้วบทความต่อๆไปคุณหมอวีซ่าจะมาเล่าให้ฟังว่าการเริ่มต้นจากเรียนหนังสือที่ออสเตรเลียจะนำเราไปสู่การเป็น Permanent Resident (PR) ได้อย่างไร

คุณหมอวีซ่าเชื่อว่ายังมีอีกหลายๆคนที่ไม่รู้ว่าเราสามารถทำงานที่ออสเตรเลียในระหว่างที่ถือวีซ่านักเรียนและหลังเรียนจบสามารถทำงานเต็มเวลาที่นี่ได้ เดี๋ยวคุณหมอจะช่วยไขความกระจ่างให้เองค่ะ ระบบของออสเตรเลียต่างกับของอเมริกากับอังกฤษ โดยผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนสามารถทำงานได้ในระหว่างเรียน กล่าวคือในช่วงเรียนภาษาหรือหลักสูตรอาชีวศึกษา เช่นสาย Diploma ต่างๆ หรือเรียนปริญญาตรี -โทแบบ course work ผู้ถือวีซ่านักเรียนสามารถทำงานได้ 40 ชั่วโมงต่อทุกสองสัปดาห์ในช่วงเปิดภาคเรียน แต่ในช่วงปิดภาคสามารถทำงานได้เต็มเวลา แต่สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเรียน Master degree by research หรือหลักสูตร PhD ก็สามารถทำงานได้เต็มเวลาทั้งผู้ที่เป็นผู้ถือวีซ่านักเรียนหลักกับคู่ครองเลยค่ะ และในการเรียนหลักสูตรทั้งสายอาชีวะและปริญญาที่ออสเตรเลียเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี หลังเรียนจบ ผู้ถือวีซ่านักเรียนก็จะสามารถข้ามฝั่งไปถือวีซ่า 485 หรือที่เรียกว่า Temporary Graduate Visa ได้ ต่างจากผู้จบหลักสูตรปริญญาที่สามารถขอวีซ่า 485 ได้หลังเรียนจบหลักสูตรสองปีที่ออสเตรเลียได้โดยทันทีภายใน 6 เดือนหลังเรียนจบและสอบ IELTS ผ่านมาได้ 6 ทุกสาย ผู้ที่จบหลักสูตรอาชีวะ จะต้องผ่านการประเมินวุฒิมาจากองค์กรที่เป็น Assessing bodies เสียก่อนถึงจะยื่นขอวีซ่า 485 เพื่อที่จะทำงานที่ออสเตรเลียต่ออีก 2 ปีได้ โดยวีซ่า 485 ตัวนี้ สามารถขอได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นในฐานะผู้สมัครวีซ่าหลัก และจำไว้ว่าจะต้องขอภายใน 6 เดือนโดยต้องยื่นภายในประเทศออสเตรเลียหลังจากเรียนจบ โดยที่ผู้ขอจะต้องถือวีซ่านักเรียนที่ยังมีอายุอยู่

ดังนั้น นักเรียนที่ไปเรียนหลักสูตรปริญญา (ทุกสาขา)หรือ certificate or diploma (บางสาขา) ที่ออสเตรเลีย ล้วนมีโอกาสทำวีซ่า 485 ที่อำนวยให้ทำงานเต็มเวลาในออสเตรเลียได้ทั้งนั้น ถือเป็นโอกาสกอบโกยประสบการณ์ และทำงานเก็บเงินเพื่อคืนทุนที่นำมาใช้เรียนต่างประเทศไปพร้อมกันได้เลยนะคะ เพียงแต่วีซ่านี้มีเงื่อนไขเล็กๆน้อยๆว่า นักเรียนจะต้องลงเรียนหลักสูตรที่ใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 2 ปี โดยลงหน่วยกิตการเรียนอย่างต่ำ 92 หน่วยกิต และเจ้าตัวต้องใช้เวลาเรียนอยู่ในประเทศออสเตรเลียเป็นเวลาอย่างน้อย 16 เดือน สอบ IELTS ให้ผ่าน 6 ขั้นต่ำ 5 ทุกทักษะ) และยื่นเรื่องภายใน 6 เดือนหลังเรียนจบ ง่ายๆแค่นี้เองค่ะ คุณหมอวีซ่าเชื่อว่านักเรียนที่ไปเรียนหนังสือที่ออสเตรเลียส่วนมากทำกันได้อยู่แล้ว นอกจากบางคนที่ไม่รู้เงื่อนไขเหล่านี้แล้วไปขอ credit exemption จนเรียนน้อยกว่า 92 หน่วยกิตก็ทำให้พลาดโอกาสดีๆ เหล่านี้ไปอย่างน่าเสียดายค่ะ อย่างไรก็ตามผู้ที่เข้าไปในออสเตรเลียด้วยวีซ่านักเรียนก่อนวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011 จะสามารถทำวีซ่านี้ได้ก็ต่อเมื่อ ผ่านการประเมิณวุฒิจากองค์กรของออสเตรเลียในสายอาชีพต่างๆกันมาก่อนเท่านั้น เช่นเดียวกับผู้ที่เรียนหลักสูตรอนุปริญญาในสายอาชีพที่ขาดแคลนซึ่งจะมีระบุอยู่ใน MLTSSL หรือ Medium and Long term Strategic Skills List ซึ่งจะมีการอัพเดตและเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆเลยค่ะ ผู้ที่เรียนหลักสูตรเหล่านี้ก็จำเป็นต้องผ่านการประเมิณวุฒิถึงจะทำวีซ่า 485 ตัวนี้ได้นั่นเอง เมื่อได้วีซ่า 485 แล้วก็จะสามารถทำงาน full-time ที่ออสเตรเลียได้ถึง 1.5 ปีเต็ม เรียกได้ว่าเป็นการอยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมายที่มีแต่ได้กับได้ทั้งนั้นเลยค่ะ

ระหว่างที่ถือวีซ่า 485 อยู่และทำงานไปด้วย ถ้าใครทำงานดีเป็นที่ต้องตาต้องใจของเจ้านายก็จะสามารถทำวีซ่า 482 หรือที่รู้จักกันในนามของวีซ่านายจ้างสปอนเซอร์ต่อได้อีก 2 ปี และกลับมาต่อวีซ่านอกออสเตรเลียได้อีก 2 รวมเป็นทั้งหมด 4 ปี สำหรับสายอาชีพทั่วไป (STSOL หรือ Short term Skilled Occupation List) หรือ ขอได้ 4 ปีตั้งแต่ต้นเลยสำหรับสายอาชีพที่ขาดแคลน (MLTSSL หรือ Medium and Long term Strategic Skills List) ซึ่งในสายอาชีพที่ขาดแคลนนั้นถ้าทำตามเงื่อนไขที่วีซ่ากำหนด เช่น ต้องทำงานในสายอาชีพนั้นอย่างน้อย 3 ปี จากทั้งหมด 4 ปีที่นายจ้างสปอนเซอร์ก็จะสามารถพาคุณไปสู่เส้นทางการเป็น PR ได้เลย โดยการขอวีซ่า 186 ต่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนายจ้างต้องยอมเป็นสปอนเซอร์ให้คุณก่อนนะคะ

การขอวีซ่า 482 หรือวีซ่านายจ้างสปอนเซอร์จะมี 3 ขั้นตอนหลักๆดังนี้ค่ะ ขั้นตอนที่หนึ่งที่เรียกว่า Sponsorship stage ต้องหานายจ้างที่จะยอมเป็นสปอนเซอร์ให้โดยนายจ้างต้องยอมจ่ายเงินเดือนให้ 53,900 AUD ต่อปี บวกกับอีก 9.5% superannuation ค่ะ ถ้าสามารถหานายจ้างได้ตามเงื่อนไขที่กล่าวมา ขั้นตอนแรกก็ถือว่าผ่านฉลุยค่ะ ต่อมาในขั้นตอนที่สองที่เรียกว่า Nomination stage คือตัวสปอนเซอร์ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าตำแหน่งที่จะจ้างคุณไปทำนั้นเหมาะสม และยากที่จะหาคนอื่นในออสเตรเลียมาทำตำแหน่งนี้ได้จริงๆ มีเพียงคุณเท่านั้นที่ทำได้ ถ้าสามารถหาเหตุผลและหลักฐานมาอ้างอิงได้ก็จะไปสู่ขั้นตอนสุดท้าย ที่เป็น Application stage ที่กำหนดให้ตัวผู้สมัครต้องมีประสบการณ์ทำงาน และผลสอบภาษาอังกฤษมาแสดงให้ดูว่ามีความสามารถทางภาษาอังกฤษเพียงพอที่จะทำงานในออสเตรเลียค่ะ โดยจะแบ่งดังนี้ค่ะ ถ้านายจ้างจะสปอนเซอร์ในสายอาชีพทั่วไป (STSOL หรือ Short term Skilled Occupation List) ผู้สมัครต้องมีผล IELTS overall 5 โดยที่แต่ละทักษะจะต้องไม่ต่ำกว่า 4.5 นั่นเองค่ะ แต่ถ้านายจ้างจะสปอนเซอร์ในสายอาชีพที่ขาดแคลน (MLTSSL หรือ Medium and Long term Strategic Skills List) ตัวผู้สมัครจะต้องมีผล IELTS overall 5 โดยที่แต่ละ band จะต้องไม่ต่ำกว่า 5 และต้องมีประสบการณ์การทำงานในสายนั้นมาไม่ต่ำกว่า 2 ปี ซึ่ง 2 ปีนี้ก็สามารถเอาประสบการณ์ในช่วงที่ทำงานตอนถือวีซ่า 485 มาอ้างอิงได้ถ้าหากว่าเป็นสายงานเดียวกัน เพียงแค่นี้เองค่ะคุณก็สามารถทำงานต่อในออสเตรเลียได้อย่างต่ำ 6 ปี โดยเริ่มจากการเรียนปริญญาหรืออนุปริญญาหรือเรียนสายอาชีวะที่ออสเตรเลีย นี่ยังไม่รวมถึงการขอ PR สำหรับบางอาชีพที่ขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของประเทศออสเตรเลียอีกด้วยนะคะ เห็นมั้ยคะว่าการไปเรียนที่ออสเตรเลียสามารถเป็นใบเบิกทางสำหรับการวางแผนอนาคตใช้ชีวิตที่ออสเตรเลียได้เลยค่ะ

รู้อย่างนี้แล้วอาจจะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียจนไปถึงการสร้างอนาคตอันยาวไกลและมั่นคงที่นั่น แล้วบทความหน้าคุณหมอจะเล่าให้ฟังต่อนะคะว่าหนทางหลังจาการทำงานที่นั่นจะพาคุณไปสู่การเป็น Permanent Resident ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นแฟนๆของคุณหมอวีซ่าท่านไหนที่กำลังพิจารณาอยากไปเรียนต่อต่างประเทศก็อย่าลืมนึกถึงออสเตรเลียกันนะคะ

ก่อนจากกันไปคุณหมอข่าววงในสำหรับชาวหัวศิลป์มาฝากกันค่ะ คุณหมอวีซ่า กับพี่เอมี่ และพี่แอร่อน จากทีมงาน CP Melbourne ไปร่วมงานชมวิทยาเขตสอนทุกเรื่องที่เกี่ยวกับศิลปะการดนตรีที่ Australian Music Institute มีทั้งที่ Sydney กับ Melbourne ใครมีพรสวรรค์ เข้ามาคุยกับทีมงานคุณหมอวีซ่าเลยนะคะ

นอกจากนี้ทางทีมงานคุณหมอวีซ่ายังมีโปรโมชั่นดีๆจาก CP Melbourne มาฝากส่งท้ายปีเก่ากันด้วยนะคะ ใครสนใจก็ติดต่อกันมาได้เลยนะคะ

สุดท้ายนี้สำหรับใครที่สนใจไปเรียนต่อออสเตรเลีย อยากทำวีซ่าออสเตรเลีย หรือมีปัญหาวีซ่าก็สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาขอคำปรึกษาจากทีมงานคุณหมอวีซ่าได้ที่ CP International Education and Migration Centre 408/35 ชั้น 9 อาคารพหลโยธินเพลส ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม 10400 เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์: 9.00-18.00น.

เบอร์โทรติดต่อ: 02-278-1236
CP International Official Line:@cpinter
ทางคุณหมอวีซ่าและทีมงานยินดีช่วยเหลือเต็มที่ค่ะ

ส่งข้ามฝั่งอยากปลอดภัย ด้วยใบเบิกทางจากทีมงานคุณหมอวีซ่า…

มีคำถามเกี่ยวกับการสมัครหรือสถานะวีซ่าออสเตรเลียของคุณ? ต้องการสมัครเพื่อศึกษาต่อ ทำงาน หรืออาศัยอยู่ในออสเตรเลีย? สามารถขอคำแนะนำจากทีมคุณหมอวีซ่าได้ที่: