18th July 2019

ประเทศออสเตรเลีย ถ้าพูดถึงชื่อนี้คงเป็นประเทศในฝันของใครหลายๆคน เพราะคุณภาพชีวิตและการศึกษาของประเทศนี้ จัดว่าอยู่อันดับต้นๆของโลก รวมถึงระยะทางก็ไม่ได้จากประเทศไทย วันนี้พี่ CP International จะมาพูดถึงทั้ง 4 เมืองยอดฮิตที่เด็กไทยชื่นชอบ และลงความเห็นว่าควรไปเรียนมาฝากกันค่ะ

เมืองเพิร์ท ที่เรียนเยี่ยม ที่เที่ยวเพียบ

perth

Perth เป็นเมืองหลวงของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Western Australia) ซึ่งเป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก เมืองนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Swan และ Canning มีชายฝั่งที่งดงาม มีแนวต้นปาล์มที่แบ่งขอบฟ้าและน้ำทะเล เหมือนฉากในซีรีย์อเมริกา สภาพภูมิอากาศเมืองนี้มีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี ในแต่ละปีจะมีอากาศอบอุ่นอยู่เก้าเดือน ไม่ค่อยมีฝน ฤดูหนาวก็จะไม่หนาวจัด เหมาะแก่การท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

ทำไมต้องมาเรียนที่เพิร์ท

What is the difference between Syd, Mel, Brisbane and Perth

ปัจจุบันนี้เพิร์ทจัดเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจดี จึงส่งผลให้มีอัตราการว่างงานที่ต่ำ ประกอบกับมีมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นในทักษะต่างๆกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ทำให้มีนักเรียนนานาชาติจำนวนมากตัดสินใจมาเรียนที่เมืองนี้ สถาบันที่ขึ้นชื่อในเพิร์ท เช่น

  • University of Western Australia มหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของประเทศ
  • Curtin University สาขาวิศวกรรมเหมืองแร่และธรณีวิทยาดังระดับโลก
  • Edith Cowan University มหาวิทยาลัย 5 ดาวในด้านคุณภาพการสอน

เนื่องจากเพิร์ทมีการเติบโตด้านอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ในด้านเหมืองแร่ เคมีภัณฑ์ และการเดินทะเล ดังนั้น เมืองนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับน้องคนไหนที่อยากจะฝึกงานเฉพาะด้าน กับผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ อีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญว่าทำไมต้องเลือกเรียนที่เพิร์ทคือ ค่าครองชีพที่นี่ไม่สูงมาก ถ้าเทียบกับเมืองใหญ่ๆ การใช้ชีวิตในแต่ละวันก็เรียกได้ว่า ชิวมาก ไม่ต้องเร่งรีบ ถ้าเรียนเครียดก็ไปนั่งรับลมที่ริมทะเล หรือ สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียก็ได้

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

Kings Parkkingpark

สวนสาธารณะ Kings Park สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย มีจุดชมวิวที่มองเห็นได้ทั่วเมือ ในสวนสาธารณะนี้ได้รวบรวมพันธ์ไม้ไว้มากกว่า 2,000 ชนิด ผู้คนส่วนใหญ่ ถ้าไม่อยากออกไปช้อปปิ้ง ก็จะมานั่งคุย อาบแดดด ปิคนิคกันที่สวนนี้

FremantleFremantle

Fremantle ที่เดียวเที่ยวคุ้ม ตลาดฟรีแมนเทิล ห้ามพลาดสำหรับขาช้อป ตลาดนี้จะคึกคักมากในช่วงสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวขนหัวลุกจากเรือนจำฟรีแมนเทิลเกี่ยวกับอดีตนักโทษ และการจัดแสดงเรืออีกมากมาย

ดูหงส์ดำ Black Swan

black swan

สัญลักษณ์ของ เมืองเพิร์ท คือ หงส์ดำ ถ้าได้มาเยือนเมืองนี้แล้ว อย่าลืมมาเยี่ยมหา เซลฟี่กับน้องหงส์ที่ทะเลสาบมองเกอร์นะคะ หงส์ดำจัดเป็นสัตว์สงวนท้องถิ่นของเมืองนี้อีกด้วย

การเดินทาง

bus cat

บริการขนส่งในเพิร์ทเป็นที่เลื่องลือว่ามีคุณภาพและทั่วถึง ในเมืองจะมีรถบริการประจำทางมีชื่อว่า CAT ซึ่งจะให้บริการฟรีในเขต Free Transit Zone สามารถใช้ได้ทั้งวัน

บริสเบนเมืองสวรรค์ของคนชอบสายลม หาดทราย และแสงแดด

brisbane

Brisbane เมืองหลวงของรัฐควีนสแลนด์ (Queensland) อยู่ทางตะวันออกของออสเตรเลีย เป็นเมืองใหญ่อันดับที่สามในออสเตรเลีย รองจาก ซิดนีย์ และ เมลเบิร์น เมืองนี้จัดเป็นเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งในออสเตรเลีย แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการผสมผสานความสวยงามของธรรมชาติความทันสมัยของเทคโนโลยีอย่างลงตัว ทำให้กลายเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักศึกษาและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาที่เมืองนี้มากขึ้น ถ้าคนไหนที่ชอบสายลม หาดทราย และ แสงแดด เมืองนี้คือที่ที่ใช่ เพราะ อากาศของบริสเบนจัดเป็นกึ่งร้อนชื้น ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยรายปีอยู่ที่ 16 – 25 องศาเซลเซียส อีกทั้งเมืองนี้ได้รับแสงแดดเฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อปี จึงทำให้เป็นเมืองที่มีอากาศอบอุ่นตลอดปี

ทำไมต้องมาเรียนที่เมืองบริสเบน

What is the difference between Syd, Mel, Brisbane and Perth

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่เคยได้ยินชื่อ เมืองบริสเบน แต่ไม่รู้ว่าเมืองนี้มีดีอย่างไร ทำไมถึงควรเลือกมาเรียนที่นี่ อย่างแรกคือที่นี่เหมาะสำหรับคนที่อยากมาฝึกภาษามากๆ เพราะมีประชากรคนไทยไม่เยอะเท่าสองเมืองใหญ่ อย่าง ซิดนีย์ หรือ เมลเบิร์น ดังนั้น น้องๆจะได้ฝึกภาษาได้ในสถานการณ์จริงอย่างเต็มที่ และจะได้ของแถมเป็นเพื่อนๆนักเรียนชาวต่างชาติที่น่ารักอีกมากมาย สองเมืองนี้มีความทันสมัย และความปลอดภัยที่สูงมาก ประกอบด้วยชาวเมืองเป็นคนใจดี และ เป็นกันเอง ทำให้เรารู้สึกสบายใจที่จะได้เรียนรู้ และสนทนา ที่สำคัญเมืองบริสเบนเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนรอบเมืองมากมาย  เช่น การเดินชมย่านประวัติศาสตร์ในเมือง การทานอาหารริมทะเลสาบ ล่องเรอ หรือดูวิวจากบนภูเขา ด้วยสภาพแวดล้อมทำให้นักศึกษาต่างชาติ รวมทั้งนักศึกษาในประเทศเอง ตัดสินใจมาเรียนที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยเด่นๆที่แนะนำ คือ

  • University of Queensland โดดเด่นสุดในด้านวิทยาศาสตร์ชีววิทยาและสิ่งแวดล้อม
  • Griffith University สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรมคุณภาพติดอันดับโลก

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

Mount Coot-tha

Mount Coot-tha

จุดชมวิวที่พลาดไม่ได้เลย ถ้าไปเที่ยวบริสเบน และอยากได้ภาพเมืองแห่งความประทับใจกลับไป ต้องมาที่จุดชมวิวนี้เลย ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงกว่าน้ำทะเล 287 เมตร  ทำให้มองเห็นบริสเบนได้ทั้งเมือง ยิ่งตอนกลางคืนที่แต่ละบ้าน แต่ละตึกมีการเปิดไฟ หลากสีสัน เหมือนมีดาวระยิบระยับสวยงามเต็มเมือง

Tangalooma Wrecks

Tangalooma Wrecks

คนชอบดำน้ำ พลาดไม่ได้แล้ว จุดดำน้ำสำคัญที่ค้นพบซากเรือ 12 ลำ สถานที่นี้ น้องๆจะได้สนุกกับความสวยงามของโลกใต้น้ำ ทั้งแนวปะการัง ที่มีปลาทะเลตัวเล็กตัวน้อย ว่ายเล่นไปมา อีกทั้งได้สัมผัสสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกด้วย

การเดินทาง

What is the difference between Syd, Mel, Brisbane and Perth

เนื่องจากเป็นเมืองเล็ก การเดินทาง ขนส่ง จึงไม่วุ่นวายมาก แต่ก็มีให้เลือกหลากหลาย มีทั้งรถบัส หรือ เรือก็ได้ แต่การจ่ายค่าโดยสารจะจ่ายผ่านบัตร go card เราสามารถเติมเงินลงในบัตร เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สามารถหาซื้อได้จากช่องขายตั๋วตามสถานีรถไฟ ร้านสะดวกซื้อ หรือทางออนไลน์ก็ได้ เพื่อความสะดวกสบาย น้องๆสามารถค้นหาเส้นทาง และเวลาการเดินรถได้จาก

เมลเบิร์นแชมป์เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก

Melbourne

Melbourne หรือ Little London มหานครที่มีกลิ่นอายของยุโรป แต่ก็มีความผสมผสานของวัฒนธรรมนานาชาติอยู่ด้วย เมลเบิร์นถูกจัดให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกมาหลายปีซ้อน ด้วยสภาพบ้านเมืองที่สมบูรณ์ สภาพอากาศที่น่ารัก ทำให้หลายๆคนตัดสินใจมาเรียนหรือมาเที่ยวที่เมืองนี้อย่างไม่ลังเล เมืองเมลเบิร์นเป็นเมืองหลวงของรัฐวิคตอเรีย (Victoria) มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากซิดนีย์ เมืองนี้เคยมีฐานะเป็นเมืองหลวงเก่าของออสเตรเลีย ดังนั้น สภาพบ้านเมืองก็ยังคงมีบรรยากาศประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เห็นได้จากพิพิธภัณฑ์ และตึกรามบ้านช่องรอบๆเมือง อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจในเมลเบิร์น คือสภาพอากาศ น้องๆคนไหนที่อยากหนีอากาศร้อนไปหาหนาว จะถูกใจเมืองนี้เลย เพราะ เมลเบิร์นมีฤดูหนาวที่ยาวกว่าเมืองอื่น ฤดูร้อนอากาศจะสูงสุดแค่ 30 องศาเซลเซียส ด้วยความที่อากาศเย็นสบายตลอดปี ทำให้เอื้อต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้พืชพันธุ์ จนได้รับชื่อเล่นว่า City of Gardens

ทำไมต้องมาเรียนที่เมลเบิร์น

What is the difference between Syd, Mel, Brisbane and Perth

นอกจากจะติดอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกแล้ว เมลเบิร์นยังติดอันดับเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาอีกด้วย เพราะ บรรยากาศที่เป็นกันเองและผ่อนคลาย ทำให้นักเรียน นักศึกษาที่เครียดจากเรื่องในห้องเรียน ได้ปล่อยวาง และคลายความเครียดของตัวเองลง ยิ่งไปกว่านั้น เมืองนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากที่สุด เพราะมีนักศึกษาจากทั่วทุกมุมโลก ตัดสินใจเดินทางมาเรียนต่อที่นี่ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น อีเว้นท์ ปาร์ตี้ อาหารการกินก็จะมีให้เลือกทานอย่างหลากหลาย ไม่เบื่อแน่นอน สุดท้ายที่ปฏิเสธไม่ได้เลย คือ มหาวิทยาลัยที่อยู่ในเมลเบิร์นนั้น ล้วนมีคุณภาพ และติดอันดับต้นๆทั้งในประเทศและระดับโลก เช่น

  • University of Melbourne  Top 3 ของออสเตรเลีย
  • Monash University โดดเด่นด้านการแพทย์ และเป็นสมาชิกในกลุ่ม M 8 Alliance
  • Royal Melbourne Institute of Technology University (RMIT) Top 50 ของโลกด้านการออกแบบและสถานปัตยกรรมศาสตร์

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

Great Ocean Road and Twelve Apostles

Great Ocean Road and Twelve Apostles

เสาหินสาวกทั้ง 12 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่านใจในเส้นทางสาย Great Ocean Road เป็นอุทยานแห่งชาติที่เข้าชมได้ฟรี มีกลุ่มโขดหินที่ตั้งอยู่อายุมากกว่า 20 ล้านปี

ห้องสมุดรัฐวิคตอเรีย

library mel

อาจจะดูแปลกที่แนะนำสถานที่เที่ยวเป็นห้องสมุด แต่รับรองเลยว่าถ้าลองได้ไปแล้วจะไม่เสียใจกับสถาปัตยกรรมช่วงศตวรรษที่ 19 ที่มีการตกแต่งภายในที่สวยงาม น้องๆจะเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังย้อนยุคแถวยุโรปซักเรื่อง

พิพิธภัณฑ์เมลเบิร์น

museum mel

พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้ มีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ สังคมในอดีต วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ และมีมุมสำหรับเด็กน้อยให้เล่นกับเครื่องเล่นมากมาย

การเดินทาง

What is the difference between Syd, Mel, Brisbane and Perth

ในเขตตัวเมืองจะเป็น Free Tram Zone ไม่ต้องใช้บัตร หรือ จ่ายค่าตั๋วใดๆในการขึ้นแทรมไฟฟ้า และรถรางหมายเลข 35 ฟรีทุกสาย แต่ถ้าจะเดินทางออกนอกเมือง ต้องมีบัตร Myki Card เพื่อใช้สำหรับขึ้นรถแทรม และ บัส ซึ่งบัตรนี้มีขานทางออนไลน์และร้านสะดวกซื้อต่างๆ

ซิดนีย์เมืองในตำนาน แสง สี เสียง ตระการตา

ถ้าถามว่าเมืองหลวงของออสเตรเลียคือเมืองอะไร มากกว่า 70% จะตอบว่า  “ซิดนีย์” ผิดจ้า!! เมืองหลวงของประเทศออสเตรเลีย คือ แคนเบอร์รา แต่ทำไมเราถึงคุ้นหูกับซิดนีย์กันเหลือเกิน นั่นเพราะว่า เมืองนี้เป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นบริษัทชื่อดัง มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง ก็รวมกันอยู่ที่เมืองนี้เป็นส่วนใหญ่ ซิดนีย์เป็นเมืองหลวงของรัฐนิวเซาส์เวลส์ (New South Wales)มีประชากรอยู่ประมาณ 4 ล้านคน ซึ่งมากที่สุดในออสเตรเลีย สภาพภูมิอากาศโดยรวมแล้ว มีแสงแดดมากกว่า 300 วันต่อปี เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นอย่างมาก ฤดูหนาวก็ไม่หนาวจนติดลบ เพราะอุณหภูมิต่ำสุดแค่ 10 องศาเซลเซียส แต่โดยทั่วไปแล้วอากาศจะประมาณ 20 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป

ทำไมต้องมาเรียนที่ซิดนีย์

ซิดนีย์จัดเป็นเมืองแรกๆที่เด็กไทยจะเลือกมาอยู่ในลิสต์ เพราะ มีสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมายตั้งอยู่ที่นี่ ตัวอย่างเช่น

  • The University of Sydney ท๊อป 50 ของโลก
  • University of Technology Sydney ท๊อป 10 ของออสเตรเลีย
  • Macquarie University โดดเด่นด้าน MBA ที่สุดในออสเตรเลีย
  • The University of New South Wales มีชื่อเสียงด้านวิศวกรรมที่สุดในออสเตรเลีย

แต่ละมหาวิทยาลัยที่อยู่ด้านบนนั้น มีคอร์สมากมายเพื่อให้นักศึกษาต่างชาติและในออสเตรเลียได้เลือกสรร นอกจากมีสถาบันที่มีชื่อเสียงและคุณภาพแล้วนั้น มีแหล่งชุมชนที่เป็นคนไทยอยู่แบบจริงจัง ดังนั้น น้องๆคนไทยส่วนใหญ่ที่ไปก็จะรู้สึกเหมือนได้อยู่ในปลอดภัย เพราะอย่างน้อยก็ยังมีคนไทยอยู่รอบๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร หรือ แหล่งท่องเที่ยว

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

Sydney Opera House

สัญลักษณ์ของเมืองซิดนีย์ ไม่ว่าจะอยู่ในโปสเตอร์ โฆษณา เว็บไซต์ ก็ต้องมีรูป Opera House มาประกอบ ที่นี่ประกอบด้วยโรงละคร ศาลาคอนเสิร์ต ภัตตาคาร และศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ อีกทั้งมีจุดชมวิวที่สวยมากๆ ถ้าใครมาซิดนีย์ แล้วไม่ได้มาถ่ายรูปที่ Opera House ถือว่ายังมาไม่ถึงเลยก็ว่าได้

Blue Mountains

สถานที่ยอดนิยม ที่มีจุด check point เป็น Three Sisters หรือภูเขารูปร่างแปลกที่ตั้งโดดเด่นอยู่สามอัน ที่เขาเรียกว่า three sisters นั้นเป็นเพราะตำนานความรักหญิงสาวสามคนที่ถูกสาป ตรงจุดนี้สามารถดูพระอาทิตย์ตกได้สวยที่สุดอีกด้วย

การเดินทาง

What is the difference between Syd, Mel, Brisbane and Perth _bus

การขนส่งคมนาคมในซิดนีย์จัดว่าสะดวกสบายมากๆ ถึงแม้ว่าค่าครองชีพเมืองนี้จะสูงกว่าที่อื่น มีทั้งรถเมล์ รถไฟ และเรือเฟอร์รี่ข้ามฝาก สำหรับการเดินทางเพื่อไปยังสถานที่สำคัญๆ

  • รถไฟ มีครอบคลุมทั่วทั้งเหมือน แต่ราคาอาจจะต่างกันขึ้นอยู่กับสถานที่และโซนที่จะไป มีตั๋วให้เลือกทั้ง one -way และ return สามารถเช็คราคาตั๋ว
  • รถบัสประจำทาง เหมาะกับคนที่จะเดินทางในระยะที่ไม่ไกลมาก เพราะสายหลักของรถจะอยู่ในแต่ละ Suburb หากจะนั่งข้าม Suburb แนะนำให้ใช้รถไฟดีกว่า
  • เรือเฟอร์รี่ ถ้าจะเดินทางไปเมืองที่อยู่ติดริมน้ำ แล้วเน้นสะดวก ไปติดการจราจรที่หนาแน่น แนะนำเดินทางทางเรือเลยค่ะ

จะเห็นได้ว่าทั้ง 4 เมืองที่กล่าวมานั้นมี เสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ถ้าหากน้องๆมีความชื่นชอบแบบไหนก็สามารถติดต่อพี่ๆ ทาง CP International ได้เลยนะคะ พี่ๆพร้อมที่จะให้ข้อมูลทั้งการไปท่องเที่ยวรวมถึงการศึกษาต่อที่มีสถาบันชื่อดังมาตรฐานระดับโลกหลากหลายสถาบันที่อยู่ที่ประเทศออสเตรเลียนะคะ

สนใจเรียนต่อในประเทศออสเตรเลีย? สนใจติดต่อกับกับเจ้าหน้าที่ของเราได้ที่