19 January 2017

CP International ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ด้วยข่าวดี วีซ่าผ่านหลายคนในหลากหลายกรณี…

สวัสดีปีใหม่ค่ะ แฟนคลับคุณหมอวีซ่าทุกท่าน ปีใหม่นี้คุณหมอวีซ่า ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าและสิ่งศักดิ์ทั่วสากลโลก โปรดดลบันดาลให้ทุกท่านประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ปลอดภัย คิดสิ่งใด ก็ขอให้สมหวังนะคะ

ปี 2016 ที่เพิ่งผ่านไปสดๆ ร้อนๆ คุณหมอวีซ่าขอส่งท้ายปีเก่าด้วยการแสดงความยินดีกับ

น้องปอย (ชื่อเล่น) ลูกสาวบุญธรรมแสนสวยและเฉลียวฉลาดของคุณอ้อ (ชื่อเล่น) จาก Sydney ที่เพิ่งรับวีซ่าบุตรติดตาม (Child Dependent Visa sc101) อนุมัติโดยสถานทูตออสเตรเลียจากเมืองไทยไปสดๆร้อนๆ หลังจากที่ครั้งแรกโดนปฏิเสธลงมา แต่ด้วยความไม่ท้อแท้ คุณหมอวีซ่านำเคสไปขึ้นศาลตุลาการ Administrative Appeal Tribunal หรือ AAT ที่ซิดนีย์ และทางตุลาการตัดสินส่งเคสกลับไปให้ทางสถานทูตพิจารณาใหม่อีกที ดีใจมากที่ทางสถานทูตฯเห็นด้วยกับทาง AAT และอนุมัติวีซ่าให้น้องปอย เรียกว่าเป็นข่าวเลิศที่สร้างความดีใจและปลาบปลื้มใจให้กับทั้งครอบครัวของน้อง กับทีมงาน CP International มากๆ เนื่องจากวีซ่าตัวนี้เป็นวีซ่าถาวร (PR) ประกอบกับน้องเองก็อายุอยู่ในช่วงเกิน 18 ปี แต่ต่ำกว่า 25 ปี (ซึ่งกฎหมายยืดให้ได้ถึง 25 ปี) จึงเรียกว่าโชคดีมากที่น้องได้วีซ่าถาวรนี้มาก่อนกฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงเพียงไม่กี่วัน คุณหมอวีซ่าเองก็ยิ่งปลื้มที่มีโอกาสช่วยสร้างอนาคตที่สดใสให้กับน้องปอย และได้ไปอยู่ร่วมกับครอบครัวอย่างครบหน้าครบตาที่ออสเตรเลีย ขอให้น้องปอยประสบความสำเร็จ และสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนา มีหนทางอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้านะคะ อนึ่ง คุณหมอวีซ่าก็ดีใจที่พวกเราทุกคนไม่ย่อท้อ และจับมือร่วมกันสู้คดีจนสำเร็จผลในครั้งนี้ ขอบคุณทั้งน้องปอย คุณอ้อกับและครอบครัวที่มีสปรีริตอันแรงกล้า มีความอดทน และมั่นใจในทีมงานของคุณหมอวีซ่า จนสามารถมอบของขวัญปีใหม่อันล้ำค่าครั้งนี้ให้แก่น้องปอยที่เป็นที่รักของพวกเราทุกคนนะคะ

Boat (ชื่อเล่น) – ระยะหลังๆมาตั้งแต่วันที่ 1 July 2016 เป็นต้นมา น้องๆนักเรียนหลายๆคนได้พบกับปัญหาความยุ่งยากในการพิจารณาผลวีซ่านักเรียนกันเยอะมาก แล้วได้เข้ามาปรึกษากับคุณหมอวีซ่า ซึ่งความยุ่งยากนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากกฏ Genuine Temporary Entry (GTE) หรือ การมีเจตนาที่แท้จริงว่าจะไปเรียนหนังสือโดยไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง เช่น ทำงานหาเงินและอยู่เกินวีซ่าโดยใช้วีซ่านักเรียนบังหน้า โดยส่วนใหญ่แล้ว ทางอิมมิเกรชั่นจะเพ่งเล็งไปที่กลุ่มเด็กที่สมัครเรียนคอร์สภาษาอังกฤษ และคอร์ส Diploma เป็นพิเศษเพราะราคาถูกกว่าและเรียนไม่หนักมากนัก โดยจะคัดกรองว่าเด็กกลุ่มนี้มีเจตนาไปเรียนที่แท้จริงไหม มีแนวโน้มจะทำผิดกฏวีซ่าแล้วหนีหายไป เข้าเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และไม่กลับมาประเทศไทยอีกหรือเปล่า อะไรทำนองนั้น สำหรับกลุ่มที่ได้รับคำแนะนำที่ผิดๆมาจากเอเย่นที่ชอบยุให้เด็กไปจดทะเบียนปลอม สร้างความสัมพันธ์ปลอม เพื่อพ่วงกันไปทำงานที่ออสเตรเลีย นั้น ก็พึงระวังเป็นพิเศษ เพราะถูกจับได้และโดนปฏิเสธวีซ่ากันไปเป็นแถวๆ คุณหมอวีซ่าจึงอยากตักเตือนกันให้ทั่วนะคะ ว่าอย่าทำเช่นนั้นเลย เพราะปัญหายุ่งยากที่ตามมาภายหลังนั้น ไม่คุ้มเลย เสียอนาคตจริงๆ

แต่ในท่ามกลางแห่งความยุ่งยากในการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย ทาง CP International ก็มีข่าวดีก่อนปิดสิ้นปีมาบอกกล่าวต่อกัน ว่าหากเราไม่ย่อท้อ และมีเจตนาจะไปเรียนหนังสือต่อที่ออสเตรเลียจริงๆ ก็ต้องจัดเตรียมข้อมูลกับเอกสารเข้าไปดีๆ ก็มีโอกาสได้วีซ่านักเรียนเข้าออสเตรเลียเหมือนกันค่ะ ยกตัวอย่าง case study ของน้อง Boat ที่เพิ่งรับวีซ่าไปก่อนปิดสิ้นปีหมาดๆเช่นกัน โดยเป็นผู้สมัครวีซ่านักเรียนที่มีอายุเกิน 30 ปีแล้ว มีประสบการณ์ทำงานประมาณ 10 ปีโดยประกอบอาชีพเป็นพยาบาล และมีเจตนาที่แท้จริงว่าต้องการจะไปเรียนภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียว ทางเราแนะนำน้องว่า ถึงแม้น้องจะตั้งใจไปพัฒนาภาษาจริงๆ ก็ยังถือว่าค่อนข้างเสี่ยงเนื่องจากน้องอยู่ในวัยทำงาน และอิมมิเกรชั่นชอบอ้างว่าผู้สมัครสามารถเรียนภาษาอังกฤษที่ไทยก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องไปเรียนเมืองนอก โดยเฉพาะที่ประเทศออสเตรเลียเลย เพราะอิมมิเกรชั่นมีความเป็นห่วง และมักเหมาเอาว่า ไปแล้วจะหนีเป็นโรบินฮู๊ดกันไปหมด จึงมักลงความเห็นว่าไม่เห็นจำเป็นต้องบินไปเรียนถึงต่างประเทศเลย พร้อมทั้งชอบปฏิเสธโดยอ้างว่าคนกลุ่มนี้คงไม่ได้มีเจตนาที่แท้จริงที่จะไปเรียนแล้วกลับมาไทยตามกำหนด ดังนั้น วิธีแก้ก็คือ ต้องอธิบายให้อิมมิเกรชั่นเข้าใจถึงเจตนาที่แท้จริงของเราที่จะเข้าไปเรียนจริงๆ ไม่มีเจตนาแอบแฝงอย่างอื่นเลย พร้อมกับต้องเตรียมเอกสารประกอบการยื่นวีซ่าเข้าไปเป็นอย่างดี เพื่อลดความเสี่ยงของการถูกปฎิเสธวีซ่าให้มากที่สุด เนื่องจากไม่ต้องการให้ตนเองติดประวัติไม่ดี นั้นเอง

กรณีของน้องโบทของเรา เขาแจ้งว่าตนเองได้หาข้อมูลด้วยตัวเองมาอย่างดีในระดับหนึ่งแล้ว จึงตัดสินใจติดต่อทาง CP International มาเพื่อปรึกษาหาทางออกว่าควรจะเตรียมการอย่างไรเพื่อให้วีซ่ามีโอกาสผ่านมากที่สุด น้องโบทบอกว่า มีความมั่นใจในชื่อเสียงของ CP International ว่าสามารถมีวิธีเอาชนะความเข้มงวดของทางอิมมิเกรชั่นได้ โดยตระหนักดีว่า เจ้าหน้าที่ที่พิจารณาเอกสารวีซ่านั้น มีทั้งเจ้าหน้าที่ไทยและต่างชาติ ซึ่งก็ย่อมมีความแตกต่างทางความคิดและวัฒนธรรมเป็นธรรมดา เราจึงจำเป็นต้องมีการอธิบายเหตุผลให้เขาเข้าใจว่า เรามีเจตนาจะไปเรียนจริงๆ ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง แต่เรื่องของเรื่องก็คือ ต่อให้อ้างเหตุผลอะไรใน Statement of Purpose (SoP) ก็ไม่ได้หมายความว่าทางอิมมิเกรชั่นจะเชื่อ ต้องยื่นหลักฐานแนบประกอบเข้าไปเพื่อสนับสนุนเหตุผลด้วย ทางเราจึงสอบประวัติน้องโบทกันโดยละเอียด และน้องที่แสนน่ารัก ก็ได้ให้ความร่วมมือตามคำแนะนำเราเป็นอย่างดีมาโดยตลอด สุดท้ายก็ได้วีซ่านักเรียนสมความตั้งใจ และที่สำคัญวีซ่าของน้องถูกพิจารณาและอนุมัติโดยเจ้าหน้าที่ต่างชาติด้วย ตอนยื่นวีซ่า ใจก็เต้นตุ๊บตั๊บกัน ช่วยกันลุ้นน่าดูอยู่เหมือนกัน แต่พอวีซ่าผ่านออกมา พวกเราถึงขนาดกรี๊ดกันเป็นแถวๆ เพราะเป็นวีซ่าที่ทำยากพอควร พวกเราจึงรู้สึกโล่งใจกันมากๆ และขอแสดงความยินดีกับน้องโบทเป็นอย่างยิ่งด้วยความจริงใจ และขอให้น้องโบทไปเรียนที่ออสฯอย่างมีความสุข จบหลักสูตรสมตามที่ตั้งใจ และประสบความสำเร็จมากๆในชีวิตนะคะ

https://youtu.be/6ZfGOaoENB4 ค่ะ

สุดท้ายนี้ ทางทีมงาน คลิกเลย!

วันนี้ เราขออัพเดตกันเพียงเท่านี้ก่อน แล้วคุณหมอวีซ่า จะกลับมาอัพเดตข่าวสารที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “วีซ่าคู่รัก” เพื่อต้อนรับวันวาเลนไทน์หลังปีใหม่นี้นะคะ สวัสดีค่ะ

มีคำถามเกี่ยวกับการสมัครหรือสถานะวีซ่าออสเตรเลียของคุณ? ต้องการสมัครเพื่อศึกษาต่อ ทำงาน หรืออาศัยอยู่ในออสเตรเลีย? สามารถขอคำแนะนำจากทีมคุณหมอวีซ่าได้ที่: