Dr Visa Article – 6 October 2020

ประกาศงบประมาณชาติเมื่อวันที่ 6  ตุลาคม 2020 ของออสเตรเลีย มีผลกระทบต่อวีซ่าอย่างไรบ้าง?

สวัสดีค่ะ แฟนคลับคุณหมอวีซ่าที่รักทุกท่าน ทุกปีรัฐบาลออสเตรเลียจะมีการประกาศงบประมาณแห่งชาติประจำปีที่เรียกว่า Federal Budget สำหรับปี 2020-2021 นี้นับเป็นปีที่ท้าทายมากเพราะผลกระทบของ Covid-19 ที่มีต่องบประมาณชาตินั้นรุนแรงมากอย่างที่ไม่เคยเห็นเป็นมาก่อนในอดีตเลยก็ว่าได้

แต่วันนี้คุณหมอวีซ่าจะขอเขียนถึงเรื่องของงบประมาณแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของวีซ่เท่านั้นนะคะ

เริ่มต้นจากเรื่องของ โปรแกรมการรับจำนวนคนเข้าเมืองที่เรียกว่า Migration Program Levels

Dr Visa article

สำหรับปี 2020-2021 นี้ จำนวนคนที่รัฐบาลจะอนุมัติให้เข้าประเทศออสเตรเลียด้วยวีซ่าประเภทต่างๆนั้น ยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้อยู่ที่จำนวน 160,000 คนไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงก็เฉพาะเรื่องของการกระจายจำนวนวีซ่าที่จะออกให้ผู้ยื่นขอเข้าประเทศออสเตรเลียประเภทต่างๆนั้นจะมากน้อยเป็นจำนวนไม่เท่ากันตามระดับความสำคัญของวีซ่าแต่ละประเภทเพื่อสนองให้ตรงตามระดับความต้องการทางสังคม เศรษฐกิจ และการพัฒนาชาติ โดยเฉพาะจะเห็นว่าช่วงนี้จะต้องมีการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจในยุคหลังโควิดอย่างเร่งด่วน ดังนั้นบุคคลากรอัจฉริยะที่มีทักษะและความสามารถทั้งหลายที่จะช่วยกู้และฟื้นฟูออสเตรเลียในยุคหลังโควิด หรือที่จะมาช่วยเติมแรงงานในสายอาชีพที่ขาดแคลน หรือนักลงทุนที่สามารถขนเงินเข้ามาสร้างธุรกิจกู้เศรษฐกิจให้ชาติได้ อย่างเช่น กลุ่มวีซ่า Global Talent ที่คุณหมอวีซ่าได้เขียนไว้ในบทความฉบับที่แล้ว หรือวีซ่าที่มีนายจ้างสปอนเซอร์ให้เข้ามาทำงาน (Employer Sponsored) หรือ วีซ่านักธุรกิจกับนักลงทุน (Business Innovation and Investment) ก็จะได้รับการพิจารณาก่อน เป็นต้น 

แต่ก็ไม่ได้แปลว่ารัฐบาลจะทอดทิ้งสมาชิกครอบครัวของชาวออสซี่นะคะ เพราะได้มีการเพิ่มจำนวนวีซ่าให้สมาชิกครอบครัว ตั้งแต่คู่ครอง พ่อแม่ ลูก เป็นต้น จากจำนวนเดิมเพียง 47,732 มาเป็น 77,300 ที่ โดยเน้นที่วีซ่าคู่ครองที่ให้ถึง 72,300 ที่ โดยเฉพาะวีซ่าคู่ครองของชาวออสซี่ที่อาศัยอยู่ในเขตภูมิภาค (Designated Regional Area) ที่ยื่นภายในประเทศออสเตรเลียจะได้รับการพิจารณาก่อน

มาถึงจุดนี้ คุณหมอวีซ่าก็อดที่จะพูดถึงข่าวสุดฮ๊อตสุดช๊อคสำหรับผู้ยื่นวีซ่าคู่ครองที่มีชาวออสซี่ที่เป็นผู้ถือถิ่นฐานถาวร (Permanent Resident หรือ PR) เป็นสปอนเซอร์ให้ โดยที่รัฐบาลได้ประกาศออกมาว่ผู้ที่ยื่นวีซ่าคู่ครองจะต้องสอบภาษาอังกฤษให้ผ่านระดับที่เรียกว่า “Functional English” เทียบเท่ากับ IELTS 4.5 มาทั้งคู่ ก็คือทั้งผู้ยื่นขอวีซ่ากับสปอนเซอร์ที่ยังถือ PR อยู่ (โดยยังไม่ได้เป็น Australian Citizen)

Complicated and Problematic Cases of Partner Visa Seminar by Dr. Visa.

ปรากฏว่าหลังประกาศลงมา มีเสียงโต้แย้งกลับไปแรงมากจากทั้งประชาชนและหน่วยงานต่างๆ รวมถึงแหล่งข่าวต่างๆก็ช่วยกันลงความเห็นว่าไม่ยุติธรรม ทำอย่างนี้ไม่ได้ เป็นต้น จนท่านนายกรัฐมนตรี กับว่าที่รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองต้องออกมาชี้แจงว่า ที่ประเทศอังกฤษ คนที่ขอวีซ่าคู่ครองต้องยื่นผลสอบภาษาอังกฤษทั้งสองขั้นตอนของวีซ่าคู่ครอง คือทั้งขั้นชั่วคราว (Provisional Stage) กับขั้นถาวร (Permanent Stage) แต่สำหรับประเทศออสเตรเลียนั้น ดูเหมือนว่าจะขอผลสอบภาษาอังกฤษในขั้นที่สอง คือขั้นที่จะข้ามฝั่งไปเป็นวีซ่าคู่ครองถาวร (PR) เท่านั้น แต่ก็อาจมีทางเลือกให้ ก็คือ ในระหว่างที่ผู้ถือวีซ่าขั้นชั่วคราว (Provisional) 2 ปีนั้นให้ไปเรียนภาษาอังกฤษมาให้ครบ 500 ชั่วโมงจนจบ ถึงจะออกวีซ่าถาวรให้ได้ เป็นต้น

ข้อเสนอเรื่องขอผลสอบภาษาอังกฤษนี้ ถ้าจะเกิดก็ไม่ใช่ทันทีนะคะ ตามแผนการของรัฐบาลน่าจะประกาศใช้ในกลาง-ปลายปี 2021 มากกว่า แต่ในขั้นนี้หลายๆหน่วยงานก็ไม่เห็นด้วยแม้กระทั่งหลังจากที่ท่านนายกฯได้ออกมาชี้แจงแล้วก็ตาม คุณหมอวีซ่าเองในฐานะที่เป็นสมาชิกของทั้ง Migration Institute of Australia กับ Migration Alliance ก็จะเขียนจดหมายเข้าไปแสดงความไม่เห็นชอบด้วยอีกเสียงหนึ่งเช่นกันค่ะ อยากถามท่านนายกฯจังว่าคนเราจะรักกันต้องผ่านการสอบภาษาอังกฤษก่อนถึงจะรักสมหวังกันได้หรือ?

เรื่องของการคืนเงินค่ายื่นวีซ่า (Visa Refunds and Waivers)

อันนี้ก็คำประกาศแปลกตาอีกเรื่องหนึ่ง ว่าด้วยผู้ที่ถือวีซ่าคู่หมั้น (Prospective marriage visa sc300) ทั้งหลายที่กำลังรอเข้าประเทศออสเตรเลียมาแต่งงานกับคู่รักของตน แต่บินเข้ามาออสเตรเลียไม่ได้เพราะด่านปิด รัฐบาลออสฯประกาศแล้วว่าไม่ต้องรออีกแล้ว ให้ไปทำเรื่องขอเงินค่ายื่นวีซ่าคืนซะ เพราะอิมมิเกรชั่นจะไม่มีการยืดเวลาวีซ่าออกไปให้อีกแล้ว แถมจะยกเลิกวีซ่าคู่หมั้นทั้งปวงที่ออกให้ไปแล้วด้วยซ้ำ อนาคตค่อยกลับมายื่นใหม่หลังด่านเปิดแล้ว ว่างั้นเหอะ

สำหรับผู้ที่ถือวีซ่าทำงานชั่วคราว (Temporary skilled workers) กับผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยว (Visitor visa) สามารถยื่นวีซ่าตัวใหม่กลับมาได้หลังด่านเปิดโดยไม่ต้องเสียค่ายื่นวีซ่าใหม่ ทำนองเดียวกับผู้ถือ Working Holiday visa ทั้งหลายก็เช่นกัน หากต้องขอวีซ่าตัวใหม่เพราะตอนได้วีซ่าตัวเก่าติดแหงกอยู่ต่างประเทศเข้ามาออสเตรเลียไม่ได้เพราะด่านปิ

วีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการจะอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียอย่างถาวร

What are the most common mistakes people make when lodging a student visa

1. New Zealand Pathway – ชาวนิวซีแลนด์ที่ถือวีซ่าชั่วคราว Subclass 444 ที่ทำงานจ่ายภาษีในออสเตรเลียมาแล้วเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ใน 5 ปีที่ผ่านมาและมีรายได้เทียบเท่าหรือเกินกว่าระดับรายได้ที่รัฐกำหนดไว้ให้กับผู้ถือวีซ่าทำงานชั่วคราว (Temporary Skilled Migration Income Threshold) สามารถข้ามฝั่งไปเป็น PR ได้

2. วีซ่านักธุรกิจและนักลงทุน – โปรแกรมสำหรับวีซ่าประเภทนี้จะเน้นที่คุณภาพของนักธุรกิจและนักลงทุนที่มีศักยภาพสูงขึ้นเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ ปีนี้รัฐบาลกำหนดให้ออกวีซ่าตัวนี้ถึง 13,500 ที่ แต่ค่ายื่นวีซ่าก็จะเพิ่มสูงขึ้นอีก 11.3% ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2021 นี้เป็นต้นไป

3. วีซ่าอัจฉริยะ (Global Talent Independent program) – กำหนดจำนวนวีซ่าให้สูงขึ้นสามเท่าตัวเป็น 15,000 ที่

4. จัดตั้งหน่วยงานพิเศษ (Global Business and Talent Attraction Taskforce) เพื่อชักจูงนักธุรกิจนักลงทุนกับผู้ที่มีความสามารถพิเศษจากทั่วโลกให้อพยพเข้ามาตั้งหลักแหล่งที่ออสเตรเลียเพื่อช่วยกู้สถานการณ์หลังโควิด และสร้างงานให้กับคนท้องถิ่นที่นี่ โดยเฉพาะชาวฮ่องกงที่ชำนาญด้านการส่งออก (Export-oriented) ให้ย้ายถิ่นธุรกิจมาทำที่ออสเตรเลีย ยินดีต้อนรับค่ะ

ประกาศเกี่ยวกับด้านวีซ่าที่น่าสนใจก็มีเพียงแค่นี้ แต่ท่านผู้อ่านยังไม่ต้องตระหนกตกใจไปกับคำประกาศ อย่าไปเครียดก่อนนะคะ เพราะเรื่องที่รัฐบาลเสนอมาต้องไปผ่านรัฐสภาออกมาเป็นกฏหมายก่อนถึงจะมีผลบังคับใช้ได้นะคะ ไว้ทีมงานคุณหมอวีซ่าจะค่อยอัพเดทให้อีกทีค่ะ สำหรับคืนนี้ ขอให้ทุกท่านทำใจให้สบาย นอนหลับฝันดีนะคะ…

ด้วยความปรารถนาดี
จากทีมงานคุณหมอวีซ่า

—————————————

คุณหมอวีซ่าและทีมงานได้ดูแลเรื่องวีซ่าให้กับลูกค้ามาแล้วเป็นเวลา 23 ปีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 สามารถให้คำแนะนำและวาง roadmap ของวีซ่าที่ถูกต้องให้กับท่านได้ อีกทั้งช่วยท่านยื่นขอวีซ่า รวมทั้งแก้ปัญหาวีซ่าให้ท่านได้ โดยเคสยิ่งซับซ้อน เราถือว่ายิ่งท้าทาย ข่าวดีจากการที่ประเทศไทยสามารถควบคุมโคโรน่าไวรัสได้ดีในอันดับต้นๆ – สำนักงาน CP Bangkok ของเราได้เปิดทำการเป็นปกติ 5 วันเต็มแล้ว ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 9.00-17.00 น. ส่วนที่ CP Melbourne ช่วงนี้ Work from Home ทุกวันจนกว่ารัฐบาล Victoria จะปลด lockdownในเดือน October 2020 หรือจนกว่าสถานการณ์ Covid-19จะคลี่คลายลง ส่วน CP Chiang Mai กับ CP Sydney เปิดตามปกติทุกวันอยู่แล้ว ที่ CP International, we are Caring and Professional ติดต่อทีมงานเราได้ที่: Contact Us